"บุญเลิศ"ร่ำไห้อัดอั้นโดนเพื่อไทยเท

                 เมื่อเวลา 15.00น. วันที่ 18 ธันวาคม 2563 ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม โดยนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ หมายเลข 2 พร้อมด้วยผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ทั้ง 25 อำเภอ จัดเวทีใหญ่ปราศรัยหาเสียงครั้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. พร้อมด้วย นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ ร่วมขึ้นเวทีปราศรัยปิดฉากการช่วยหาเสียงที่จังหวัดเชียงใหม่ ท่ามกลางประชาชนชาวเชียงใหม่ในเขตพื้นที่ อ.เมือง และ อ.แม่ริม เข้าฟังปราศรัยเป็นจำนวนมาก

              โดย นาย บุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ หมายเลข 2 ได้ชูนโยบาย หากได้รับการเลือกตั้งจะ เร่งแก้ไขฝุ่นควันpm 2.5 เป็นอันดับแรก เพราะถือเป็นปัญหาใหญ่ ที่ประชาชนเชียงใหม่ได้รับผลกระทบมาอย่างหนัก รวมทั้งมีการสร้างแหล่งน้ำในทุกตำบลโดยจะใช้เวลา 4ปี ส่วนรถไฟฟ้าสายสีแดงจะเกิดขึ้นในเชียงใหม่ภายใน 3 ปีนี้ เป็นสายแรก รวมทั้งจัดระบบขนส่งสาธารณะเพื่อรองรับเชื่อมโยงกับรถไฟฟ้า ขณะเดียวกันจะจัดระบบไฟฟ้าส่องสว่างเพื่อให้ประชาชนได้ใช้งานในเส้นทางสาธารณะ

                  หลังจากนั้นนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ขึ้นเวทีปราศรัย กล่าวถึงการที่นายบุญเลิศ บูรณปกรณ์ไม่ได้ลงในนามพรรคเพื่อไทย เนื่องจากทางพรรคในช่วงที่นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ถูกจับดำเนินคดี เนื่องจากไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ จนถูกจำคุก ทางพรรคเพื่อไทยได้จัดเตรียมคนเพื่อลงสมัครนายกอบจ.แทน ทั้งที่ผู้สมัครคนดังกล่าวไม่ใช่คนเชียงใหม่ หากอดีตนายกฯ ทักษิณ และอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ลักษณ์ มาบอกกับนายบุญเลิศว่า ไม่ลงได้ไหม เชื่อว่านายบุญเลิศ ก็จะไม่ลงสมัครครั้งนี้ เพราะยังมีความเคารพรักเพื่อไทยอยู่ แต่ที่นายบุญเลิศลงสมัครในครั้งนี้เพราะ ไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จึงตัดสินใจลงในนามเชียงใหม่คุณธรรม ขณะเดียวในวันที่นายบุญเลิศต้องโทษถูกจำคุก ก็ไม่ได้รับการเหลียวแลจากพรรคเลย
                 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายจตุพร พูดถึงกรณีที่ต้องรับโทษโดยไม่มีการซักทอดใครเลยนั้น ทำให้นายบุญเลิศ รู้สึกอัดอั้นใจจนร่ำไห้ออกมากลางเวทีปราศรัย โดยเวทีนี้จะเป็นเวทีปิดฉากการหาเสียงการสมัครเลือกตั้งในครั้งนี้ ทำให้มีประชาชนเข้ามารับฟังเป็นจำนวนมาก