นพ.มยิน ทเว รัฐมนตรีสาธารณสุขเมียนมา เปิดเผยว่า รัฐบาลวางแผนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แก่ประชาชนเกือบ 20% จากจำนวนประชากรทั้งสิ้น 54.4 ล้านคนตั้งแต่เดือน เม.ย. 2564 จนถึงเดือน มิ.ย.2565 และขณะนี้กระทรวงเตรียมแผนการจัดเก็บและกระจายวัคซีน จัดลำดับความสำคัญของกลุ่มบุคคลที่จะได้รับวัคซีนแล้ว
เมียนมายื่นหนังสือเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.เพื่อขอเข้าร่วมโครงการ "โคแวกซ์" ที่เป็นโครงการจัดหาวัคซีนภายใต้การนำองค์การอนามัยโลก และองค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อให้ 92 ประเทศที่เข้าเป็นภาษีสามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างเท่าเทียมกัน แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า เมียนมาจะได้รับวัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัทใด ซึ่งเบื้องต้น คาดว่า จะได้รับวัคซีนล็อตแรกราว 3% ในเดือน เม.ย.
เมียนมามีเงื่อนไขในการจัดซื้อวัคซีน คือ วัคซีนต้องได้รับการอนุมัติจากองค์การอนามัยโลก บริษัทผู้ผลิตได้รับการอนุมัติใน 3 ประเทศ หรือ วัคซีนได้รับการอนุญาตให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน และรัฐบาลกำหนดว่าบุคลากรกลุ่มแรกที่จะได้รับวัคซีน ได้แก่ บุคลากรการแพทย์ ผู้ที่มีอายุเกิน 65 ปีขึ้นไป และผู้มีโรคประจำตัว
ส่วนสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,155 คนเมื่อวันอังคาร ทำให้ยอดสะสมเพิ่มเป็น 110,667 คน และมีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 27 ราย ทำให้ยอดสะสมเพิ่มเป็น 2,319 ราย
ขณะเดียวกันกระทรวงต่างประเทศประกาศเมื่อวันอังคารขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดออกไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. โดยรวมถึงมาตรการห้ามนักเดินทางจากต่างประเทศเข้าเมียนมา ระงับวีซ่าทุกประเภท
นอกจากนี้กรมการบินพลเรือน เปิดเผยว่า เที่ยวบินพาณิชย์ระหว่างประเทศจะสามารถบินเข้าออกเมียนมาได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2564 ก็ต่อเมื่อมีการเตรียมพร้อมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเรียบร้อยแล้ว และคณะกรรมการกลางป้องกันควบคุมและรักษาโรคโควิด-19 แจ้งว่า เที่ยวบินภายในประเทศเริ่มให้บริการได้ตั้งแต่วันนี้ 16 ธ.ค.