svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

สันธนะ พร้อม เสี่ยโป้ แจง ประเด็นเงินบริจาค 2 ล้านโครงการเสื้อชมพู จี้ บิณฑ์ ชี้แจงหากบริสุทธิ์ใจ

13 ธันวาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สันธนะ พร้อม เสี่ยโป้ แจง ประเด็น เงินบริจาค2ล้านในโครงการเสื้อชมพู โชว์หลักฐานโครงการของศิริราชมูลนิธิ จี้ บิณฑ์ ชี้แจงรายละเอียดหากบริสุทธิ์ใจ เตรียมแจ้งความกองปราบปรามพรุ่งนี้ หลังพบมีพฤติกรรมหมิ่นเหม่ในการแอบอ้างตราสัญลักษณ์ ยืนยันไม่เกี่ยวกับประเด็นการเมืองและไม่มีปัญหาส่วนตัว

นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับตำรวจสันติบาล พร้อมด้วย นายอภิรักษ์ บรรลือฤทธิ์ หรือเสี่ยโป้ ร่วมกันแถลงข่าวกรณีโครงการเสื้อสีชมพูหลังจากที่ นายสันธนะได้ไปร้องเรียนกับสำนักงานตำรวจให้ชาติให้ตรวจสอบพฤติกรรมของดารานักแสดงที่มาขอรับบริจาคเงิน2ล้านบาทจากเสี่ยโป้ ซึ่งภายหลัง นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้ออกมาชี้แจงต่อกรณีดังกล่าว เพราะเป็นบุคคลที่ถึกพาดพิง

สันธนะ พร้อม เสี่ยโป้ แจง ประเด็นเงินบริจาค 2 ล้านโครงการเสื้อชมพู จี้ บิณฑ์ ชี้แจงหากบริสุทธิ์ใจ


โดยก่อนเริ่มการแถลงข่าว ได้มีการต่อสายโทรศัพท์ไปยัง นายบิณฑ์ เนื่องจากได้เชิญชวนให้มาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย แต่ไม่มีการรับสาย และได้โชว์บันทึกการโทร ซึ่งปรากฎในบันทึกวันที่ 25 พ.ย. พบว่า มีสายโทรออกและโทรกลับเข้ามา
โดยนายอภิรักษ์ หรือเสี่ยโป้ เล่าว่า ได้มีการนัดเจอบิณฑ์ ก่อนมีการรับเสด็จ และพูดเรื่องเงิน20ล้านจริง เพื่อขอให้พาคนที่อยากมาร่วมรับเสด็จจริงๆ แต่ไม่มีค่ารถ ไม่มีทุนทรัพย์ ให้มาเอาเงินกับตน เพราะตนอยากให้คนพวกนี้มาจริงๆ แต่พอผ่านวันรับเสด็จ ก็ไม่ได้ให้เงินก้อนนั้นก็จบไป และผ่านไปครึ่งเดือน นายบิณฑ์โทรมาบอกว่าต้องการนัดเจอ และคุยกันเรื่องเสื้อสีชมพู โดยบิณฑ์ ได้พาคนที่นิรันดรมาด้วย และนายบิณฑ์ บอกว่า ขอเงินบริจาค10ล้านซื้อเสื้อชมพู และไม่อยากให้ใส่เสื้อเหลือง เพราะเป็นสีการเมืองไปแล้ว เลยอยากให้เป็รเสื้อชมพู เพราะเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของสถาบัน ดังนั้นเมื่อตนเองเห็นว่าอุดมการณ์ตนกันเรื่องเงิน10ล้าน ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เนื่องจากตนเองโดนคดี เงินก็อาจจะขัดข้อง โดยเมื่อเงินจากต่างประเทศโอนมาไม่ได้ จึงโทรไปยืมเงินซ้อ และได้แค่2ล้าน และวันที่จะโอนเงิน ตนไปเที่ยวจังหวัดกระบี่ เมื่อนายบิณฑ์บอกว่าต้องโอนภายในวันนั้นไม่เช่นนั้นจะเสียเครดิต และได้ให้ลูกน้องโทรไปที่ซ้อ ปรากฎซ้อให้โทรหานายสันธนะ เพื่อให้นายสันธนะจัดการ จากนั้นก็สันธนะ ก็รับเรื่องไปจัดการ 

สันธนะ พร้อม เสี่ยโป้ แจง ประเด็นเงินบริจาค 2 ล้านโครงการเสื้อชมพู จี้ บิณฑ์ ชี้แจงหากบริสุทธิ์ใจ

สันธนะ พร้อม เสี่ยโป้ แจง ประเด็นเงินบริจาค 2 ล้านโครงการเสื้อชมพู จี้ บิณฑ์ ชี้แจงหากบริสุทธิ์ใจ


นายอภิรักษ์ หรือ เสี่ยโป้ ยืนยันด้วยว่า อุดมการณ์เดียวกันคือ การทำบุญ ช่วยเหลือ แต่ถ้านอกจากนี้มีอะไรแอบแฝง ไม่ใช่ตนเองแน่นอน และยืนยันว่า การบริจาคเป็นการเสียเงินไม่มีเป็นการฟอกเงินใดๆ และตนเองต้องการทำตามอุดมการณ์ และไม่เคยเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาแอบอ้างหากิน พร้อมขอว่า อย่าเอาตนเองเอาไปแอบอ้าง เรื่องเงินบริจาค เพราะตนเองไม่มีทางเอาเงินบริจาคมากินมาเที่ยวแน่นอน ทั้งนี้ยังเชื่อ ว่า ขออย่าเป็นการแอบอ้างเลย เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยโอนไปช่วยน้ำท่วม1ล้านบาท

พร้อมทั้งฝากบอก นายบิณฑ์ ถ้าไม่ผิดปกติอะไรก็ยอมให้ตรวจสอบ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหา เพราะขณะนี้ มีเอกสารยืนยันที่ครบถ้วน และยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีปัญหากับใครและเคารพทุกคนขณะที่นายสันธนะ เล่าว่า หลังจากเข้ามารับผิดชอบเรื่องนี้ ก็พยายามโทรติดต่อนายบิณฑ์ เพื่อคุยเรื่องเงิน2ล้าน และในรายละเอียดที่พูดคุยกัน มีการอ้างถึง รพ.ศิริราช บิณฑ์ไม่สามารถชี้แจงได้ชัดเจน ตนเองจึงยังไม่ขอโอนและจะขอตรวจสอบก่อน ซึ่งในขณะนั้นตนเองรู้สึกเหมือนเสี่ยโป้ไปติดหนี้ เพราะจากน้ำเสียงที่บิณฑ์พูดว่า เสี่ยโป้ได้รับปากผู้ใหญ่ไว้แล้ว

สันธนะ พร้อม เสี่ยโป้ แจง ประเด็นเงินบริจาค 2 ล้านโครงการเสื้อชมพู จี้ บิณฑ์ ชี้แจงหากบริสุทธิ์ใจ


จากนั้นตนเองตรวจสอบไปยังรพ.ศิริราช ได้รับเอกสารชี้แจงว่า มีการจัดทำโครงการนี้จริงแต่รายละเอียดในหนังสือ นายบิณฑ์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ หากจะมีการบริจาคสามารถโอนเงินผ่านบัญชีศิริราชมูลนิธิได้โดยตรง และจากการสอบถามกับการเจรจากับคนกลางที่อ้างว่าชื่อ นายนิรันดร ก็พบว่า นายนิรันดร มีการแอบอ้างว่า ได้รับอนุญาตตราสัญลักษณ์แต่เพียงผู้เดียว และโครงการเสื้อสีชมพู ของรพ.ศิรราชเป็นผู้จัดทำ 2แสน4หมื่นตัว ไม่ใช่3แสนตัวตามที่มีการกล่าวอ้างเพื่อขอรับบริจาคด้วย
โดยในวันพรุ่งนี้เวลา 10.30น.นายสันธนะจะเดินทางไปกองปราบปราม เพื่อดำเนินคดีกับนายบิณฑ์ และขอให้นายบิณฑ์เดินทางไปด้วยเช่นกัน และยืนยันว่า การออกมาเคลื่อนไหว ไม่เกี่ยวข้องกับทางการเมือง และไม่ได้จะมาแข่งขันเรื่องความจงรักภักดีกับใคร เพราะตนเคยรับราชการ ทุกอย่างอยู่ในใจ และการชุมนุมทางการเมือง ก็ไม่ใช่ประเด็นที่จะเอามาโจมตีใครเช่นกัน รวมถึงไม่เคยโกรธเคืองกันกับนายบิณฑ์และไม่มีประเด็นทางการเมืองต่อกัน แต่กรณีที่เกิดขึ้นมีความหมิ่นเหม่ กับการแอบอ้างเรื่องการผูกขาดตราสัญลักษณ์ได้แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น

logoline