ตระกูลภัทรประสิทธิ์ ขอแจ้งเกิด นายกอบจ.พิจิตร
พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ อดีตผกก.สภ.วังทรายพูน จ.พิจิตรเป็นตำแหน่งสุดท้ายก่อนวางมือมาดำเนินธุรกิจและเดินเส้นทางการเมือง ชื่อชั้น ไม่ธรรมดา มีท่อน้ำเลี้ยง-พี่เลี้ยง อย่าง นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตรมช.คลัง นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ อดีต ส.ส.พิจิตร นางสาวสุนีย์ เหลืองวิจิตร อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยนายนาวิน บุญเสรฐ อดีต ส.ส.พิจิตร และที่ผ่านมามีการลงพื้นที่ช่วยหาเสียงตุนคะแนน
ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.กฤษฎา มีการวางแผนการสมัคร ปูเส้นทางการเมืองมานาน เช่นในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ได้มีการเปิดตัวด้วยการแจกไข่ไก่ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากการตกงาน และขาดรายได้ในช่วงวิกฤต เพื่อให้ประชาชนได้รู้จัก
ขณะที่เจ้าของเก้าอี้นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ ผู้สมัครหมายเลข 2 ลงชิงชัยในนาม "ทีมเรารักพิจิตร" ถือเป็นแชมป์เก่าที่ผูกขาด ได้รับการสนับสนุนจากสองตระกูลใหญ่ คือขจรประศาสตร์และแก้วทอง ว่ากันว่าเจ้าตัวได้เปรียบเชิงผลงาน เนื่องจากเป็นนายก อบจ.มายาวนาน
ผลงานที่สะดุดตา สะดุดใจและดูเหมือนว่าได้เปรียบคู่แข่ง คือ การรวมพลังกับภาครัฐและเอกชน นำเครื่องแอร์บัสฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโควิด-19 ไปทั่ว จ.พิจิตร ทั้งกลางวันและกลางคืน แถมตบท้ายด้วยโครงการล้างทำความสะอาดวัด 469 วัดทั่วจังหวัดพิจิตรและการฉีดยาฆ่าเชื้อโควิด-19 ตามโรงเรียนทุกแห่งก่อนเปิดภาคเรียนที่ผ่านมา และเมื่อจบโครงการ รัฐบาลก็ประกาศเลือกตั้งพอดี ทำให้ผลงานยังไม่ถูกลืมเลือนจากประชาชน จนเกิดความได้เปรียบขึ้นมาทันที
ส่วนหมายเลข 3นายวิเชียร เธียรชัยพงษ์หัวหน้าทีมศิษย์หลวงพ่อเพชร และเจ้าของห้างชัยพงษ์ พลาซ่าคู่ปรับเก่าของอดีตนายก อบจ.พิจิตร มาหลายสมัย แต่ยังไม่สมหวัง แม้ว่าวัยละล่วงเลยถึง 74 ปีแต่ก็ไม่ถอดใจ มีผลงานเพื่อสังคมไม่น้อยไม่ว่าโครงการแข่งขันฟุตบอลชัยพงษ์คัพ โครงการผลิตป้ายเลขที่บ้านให้ประชาชน ทำให้เป็นที่รู้จักของชาวบ้านอยู่มากพอสมควร ศึกนี้คงต้องออกแรงเหนื่อยหากจะฝ่าด่านหินไปได้
ด้านหมายเลข4 นายมาโนชย์ วัฒนประสิทธิ์อดีต ส.อบจ.ที่ผันตัวเองไปสมัครชิงเก้าอี้ นายกอบจ.ในามคณะก้าวหน้า หวังพึ่งกระแสคนรุ่นใหม่คอกาแฟว่ากันว่าศึกครั้งนี้จะชนะหรือแพ้ ให้ดูกันที่สถานการณ์ชุมนุม ในกรุงเทพฯ ประกอบด้วย
ส่วนหมายเลข 5 เป็นผู้สมัครอิสระ นางพัฒนียา มูละ เป็นผู้สมัครที่มาสมัครพร้อมกับ "ความงง"ของทุกฝ่าย ว่ากันว่าวันสมัคร มีตระกูลดังทางการเมือง จูงมือมาสมัครให้ด้วยตัวเอง แต่จากการสังเกตุของสภากาแฟ บอกว่า นางพัฒนียา น่าจะหวังผลกับตำแหน่งเก้าอี้ นายก อบจ.เพราะมองการณ์ข้างหน้าว่า ทั้ง 4 หมายเลขน่าจะขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้น ร้องกันไปร้องกันมา จนโดนใบแดงทั้งหมดโดยตอนนี้นางพัฒนียา ขึ้นป้ายหาเสียงเพียงป้ายเดียวคือที่ ทางเข้าบ้านหนองนาดำ ต.หัวดง อ.เมืองพิจิตร และยังไม่พบการเดินหาเสียงใดๆในขณะนี้
สถานการเลือกตั้งในครั้งนี้ หากดูตามฟอร์มของแต่ละค่าย ต่างมีทีเด็ดต่างๆกันไป ท่ามกลางกระแสข่าวว่ามีการจดรายชื่อเพื่อเตรียมการซื้อเสียงจนกกต.ต้องส่งหน่วยสืบสวนลงพื้นที่ และมีการร้องเรียนกันเกิดขึ้นโดยเฉพาะการขึ้นป้ายหาเสียงก่อนที่จะมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย คงต้องต้องดูที่ กกต.พิจิตร ว่าจะฟันธงเรื่องนี้อย่างไร จะมีผู้สมัครชิงเก้าอี้นายกอบจ. ให้ประชาชนเลือก จาก 5 ที่นั่ง เหลือเพียง 4 ที่นั่งนี้หรือไม่
