คณะผู้เชี่ยวชาญในกลุ่มพัฒนาแนวปฏิบัติของอนามัยโลก ออกคำแนะนำล่าสุดเกี่ยวกับยา "เรมเดซิเวียร์" ในวารสารทางการแพทย์ "เดอะ บีเอ็มเจ" ในวันนี้ โดยสรุปว่า "เรมเดซิเวียร์" ไม่อาจส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อโอกาสรอดชีวิต ลดระดับอาการป่วย หรือลดระยะเวลาการรักษาตัวในโรงพยาบาลของผู้ป่วยโควิด-19 จึงยังไม่แนะนำให้ใช้ และหากยามีประโยชน์ทางการรักษาอยู่บ้าง ก็ยังน้อย ขณะที่อันตรายอย่างมากจากผลข้างเคียงของยายังคงมีอยู่ผลสรุปนี้อาศัยข้อมูลใหม่เปรียบเทียบผลการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยยาหลายตัว รวมถึงข้อมูลจากการทดลองใช้ยา "เรมเดซิเวียร์" กับผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลกว่า 7,000 คนในโครงการทดสอบของต่างชาติ 4 โครงการ
เรมเดซิเวียร์ ผลิตโดยบริษัท กิลเลียด ไซแอนซิส ของสหรัฐ เพื่อใช้รักษาโรคอีโบลาสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐอนุมัตให้ใช้ยาชนิดนี้เป็นกรณีฉุกเฉินเพื่อรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับยาตัวนี้ระหว่างรักษาอาการโรคโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเมื่อเดือนที่แล้วด้วย นอกจากนี้อีกหลายประเทศ รวมถึง ไทย ก็อนุมัติให้ใช้ยาตัวนี้รักษาผู้ป่วยโควิด-19
แต่ช่วงกลางเดือน ต.ค.อนามัยโลก เผยแพร่รายงานว่า จากผลการทดสอบใช้ยา"เรมเดซิเวียร์" รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงพยาบาล พบว่า ยาส่งผลน้อยมากหรือแทบไม่มีผลต่อระยะเวลารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือโอกาสรอดชีวิต
ล่าสุดบริษัทกิลเลียด ไซแอนซิส ออกแถลงการณ์ ยืนยันว่า ยาได้รับการยอมรับจากหลายองค์กรที่น่าเชื่อถือ ซึ่งรวมถึงสถาบันสาธารณสุขและสถาบันโรคติดเชื้อทั้งในสหรัฐ ญี่ปุ่น อังกฤษ และเยอรมนี ว่าเป็นยามาตรฐานสำหรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19ที่รักษาตัวในโรงพยาบาล
นอกจากนี้แถลงการณ์ยังระบุว่า ผิดหวังกับคำแนะนำของอนามัยโลก ที่ออกมาในช่วงที่จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งขึ้นอย่างมาก และบรรดาแพทย์ต้องพึ่งพายายาต้านไวรัสตัวนี้ ที่ได้รับอนุมัติเป็นตัวแรกและตัวเดียวให้ใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในเกือบ 50 ประเทศ