
ซึ่งวิธีการรายงานข้อมูลคุณภาพอากาศประจำวันของประเทศไทย ในแอปพลิเคชัน Air4Thai ที่สามารถเลือกดูข้อมูลผลการตรวจวัดได้ทั้งค่ารายชั่วโมง และค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงนั้น ใช้เครื่องมือในการตรวจวัด ที่เป็นไปตามค่ามาตรฐาน ตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติกำหนด โดยวิธีการตรวจวัดและวิธีเก็บตัวอย่างต้องเป็นไปตาม Federal Equivalent Method (FEM) ที่องค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (United States Environmental Protection Agency: US EPA) กำหนด และสอดคล้องกับการรายงานสถานการณ์มลพิษทางอากาศแต่ละชนิดตามมาตรฐานสากลที่ใช้กันทั่วโลก
ส่วนการรายงานค่าปริมาณมลพิษทางอากาศตัวอื่นๆ โดยใช้ค่าเฉลี่ยตามช่วงเวลาที่แต่ละพารามิเตอร์กำหนดเอาไว้ เช่น ปริมาณคาร์บอนมอนอกไซด์(CO) จะใช้ค่าเฉลี่ย 8 ชั่วโมงต่อเนื่องในการรายงานค่า เป็นต้น ส่วนแถบสีที่ใช้แสดงระดับปริมาณสารมลพิษทางอากาศ และค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) นั้น จะมีความแตกต่างกันตามที่แต่ละประเทศได้กำหนดเอาไว้ โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนเข้าใจและแยกแยะระดับมลพิษทางอากาศจากแถบสีที่ชัดเจน เช่น แถบสีที่ประเทศแคนาดา กำหนดใช้ในประเทศจะมีทั้งหมด 11 เฉดสี ฮ่องกงใช้ 5 เฉดสี สาธารณรัฐประชาชนจีน สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้และอินดียใช้ 6 เฉดสี สหราชอาณาจักรใช้ 4 เฉดสี 10 ระดับ และประเทศไทย 5 เฉดสี 5 ระดับ เป็นต้น
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : แอปพลิเคชัน Air4thai ของกรมควบคุมมลพิษ ไม่ได้ตั้งค่าเฉลี่ยตรวจวัดฝุ่น PM 2.5 ต่ำกว่ามาตรฐาน อีกทั้งได้ใช้เครื่องมือในการตรวจวัด ที่เป็นไปตามค่ามาตรฐาน ตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติกำหนด และสอดคล้องกับการรายงานสถานการณ์มลพิษทางอากาศแต่ละชนิดตามมาตรฐานสากลที่ใช้กันทั่วโลก
ขอบคุณศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม