จากกรณีที่ครอบครัวของพลทหารรชฏ เสนาสนิท อายุ 21 ปี ติดใจการเสียชีวิต หลังทางมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้โทรศัพท์แจ้งครอบครัวว่า ลูกชายใช้ผ้าขาวม้าผูกคอฆ่าตัวตาย พร้อมนำศพไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ โดยไม่ได้แจ้งญาติก่อน อีกทั้งยังพบรอยมีดจิ้มที่ข้อมือ และระบุว่าพลทหารรชฏ ลูกชายเป็นโรคซึมเศร้านั้นเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 นายสุรชัย เสนาสนิท บ้านเลขที่ 56 บ้านโนนสวรรค์ หมู่ 1 ต.หนองน้ำใส อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ผู้เป็นพ่อของพลทหารรชฏ เสนาสนิท ได้เดินทางมาให้ปากคำ พร้อมนำหลักฐานมามอบให้พนักงานสอบสวน ที่สภ.ย่อยตำบลศิลา มีทั้งเอกสารทางแชทไลน์ หนังสือรับรองการตาย เพื่อติดตามทวงความยุติธรรมให้กับลูกชาย หลังจากมีข้อสงสัยการเสียชีวิตของลูกชายว่าไม่ได้เกิดจากการฆ่าตัวตาย
นายสุรชัย กล่าวว่า จากเอกสารทางแชทไลน์ที่พูดคุยกับเพื่อนก่อนเสียชีวิต พบว่าก่อนเกิดเหตุลูกชายยังพูดคุยหยอกล้อ โดยไม่ได้แสดงอาการที่จะนำไปสู่การฆ่าตัวตายแต่อย่างใด ประกอบกับลูกชายเป็นคนร่าเริง แจ่มใส และเป็นคนขี้กลัว จึงทำให้เชื่อว่าไม่ฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน หลังได้รับแจ้งจึงได้เดินทางไปพร้อมกับภรรยา ติดตามการเสียชีวิตที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เนื่องจากทางค่ายทหารได้ส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์แล้ว ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ทหาร นำภาพถ่ายในที่เกิดเหตุมาให้ดูนายสุรชัย กล่าวว่า จากภาพถ่ายและคำบอกเล่าของทหาร พบว่า สภาพศพลูกชายผูกคอห้อยกับคานกระท่อมกลางน้ำ ในเขตค่ายทหาร สวมกางเกงขาสั้นสีเขียวขี้ม้า เสื้อยืดสีเทา ใช้ผ้าขาวม้าผูกคอ พบมีคราบเลือดติดที่หน้าผาก แขนซ้ายและข้อมือซ้าย โดยทางหทารอ้างว่าลูกชายเป็นโรคซึมเศร้าจึงกรีดข้อมือก่อนผูกคอตาย มือทั้งสองข้างหงิก มีมีดปลอกผลไม้วางอยู่ ในกระท่อมมีโทรศัพท์วางบนหมอน ได้ใช้มีดกรีดแขนซ้าย ก่อนผูกคอตายในคืนวันที่ 31 ต.ค. 63 กระทั่งมีเพื่อนทหารในค่ายไปพบลูกชายเวลา 04.00 น. วันที่ 1 พ.ย. 63"เดิมครอบครัวเราทำงานและอาศัยอยู่ที่กรุงเทพมหานคร โดยพลทหารรชฏ ลูกชายไปอาศัยอยู่ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ กระทั่งเรียนจบ หลังจากลูกมาบอกว่าตั้งใจจะสมัครเป็นทหาร ครอบครัวจึงตัดสินใจกลับมาปักหลักอยู่ที่บ้านเกิด ที่อ.บ้านไผ่ เพราะต้องการอยู่ใกล้ชิดกับลูก กระทั่งเขาเข้าไปประจำการ ก็จะหาเวลาที่เขาว่างใช้โทรศัพท์ได้ พูดคุยผ่านทางข้อความตลอด เพราะไม่ต้องการรบกวนลูกในช่วงเวลาฝึก และกังวลว่าหากใช้โทรศัพท์ในช่วงที่ไม่ได้รับอนุญาตจะถูกทำโทษ แต่หากเห็นว่าลูกออนไลน์จะทักสอบถามความเป็นอยู่ทันที ซึ่งหากการดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ทำไมเราพ่อแม่จะไม่รู้ว่าลูกมีอาการผิดปกติ ที่นำไปสู่การฆ่าตัวตาย หรือหากอ้างว่าลูกชายมีอาการซึมเศร้าที่ผ่านมาลูกไม่เคยต้องกินยา หรือต้องไปพบจิตแพทย์ แต่อย่างใด ข้อกล่าวอ้างที่ทางทหารให้ข้อมูลมานั้น จึงทำให้เกิดความสงสัยถึงการเสียชีวิตของลูกชายคนเดียว จึงตัดสินใจนำเอกสารหลักฐานมาให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับลูกชาย"นายสุรชัย กล่าว
นอกจากนี้ นายสุรชัย กล่าวว่า ในส่วนของเพื่อนทหารที่พบศพคนแรกนั้นยังไม่ได้พูดคุยในรายละเอียด พูดคุยกันเพียงว่า ช่วง 04.00 น. วันที่ 1 พ.ย. 63 ตื่นมาเข้าห้องน้ำ เห็นลูกชายบนศาลาที่เกิดเหตุ นึกว่ายืนปัสสาวะจึงไม่ได้สนใจ กระทั่งเข้าห้องน้ำเสร็จออกมายังเห็นลูกชายยืนอยู่ที่เดิม จึงเดินเข้าไปเรียกกระทั่งเห็นว่าผูกคอตาย"ระหว่างนี้รอผลการผ่าพิสูจน์ ผลดีเอ็นเอจากผ้าขาวม้า เลือดจากมีด เลือดที่อยู่บนพื้น เมื่อนำร่างลูกชายมาผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์แล้ว ก็มั่นใจในระดับหนึ่งว่าผลการผ่าจะออกมาด้วยความยุติธรรม ทำให้ครอบครัวตัดสินใจเผาศพลูก เพราะทำใจไม่ได้ที่จะนำศพลูกไปผ่าพิสูจน์ที่อื่น เพราะสงสาร เราไม่ต้องการเห็นเขาเจ็บอีก แต่เราต้องการความยุติธรรม ไม่นึกว่าวันเกิดลูกชายปีนี้ จะเป็นวันตายของเขา" นายสุรชัย กล่าวนอกจากนี้จากเอกสารหนังสือรับรองการตาย ของโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ระบุว่า พลทหารรชฏ เสนาสนิท อายุ 21 ปี เสียชีวิตที่ค่ายศรีพัชรินทร์ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยแพทย์ระบุสาเหตุการตาย คือขาดอากาศหายใจ จากการแขวนคอ