
วิชัย ศรีนวกุล นายกสมาคมโรงสีข้าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า ขณะนี้ ราคาข้าวเปลือกหอมมะลินาปี ปี 2563/64 ซึ่งเป็นข้าวสดอยู่ที่ตันละ 10,500-11,000 บาท ต่ำกว่าราคาข้าวเปลือกหอมมะลินาปี ฤดูกาลก่อน หรือปี 2562/63 อยู่ที่ราคา 12,500-14,500 บาท โดยหากเป็นข้าวแห้ง หรือความชื้นไม่เกิน 15% ราคาลดลงเช่นกันปัจจุบันอยู่ที่ 14,000 บาท ลดลงจากฤดูกาลก่อนอยู่ที่ 16,000-17,000 บาท ซึ่งราคาลดลงเฉลี่ยประมาณ 30-40%
ทั้งนี้ ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิในปีนี้ ซึ่งผลผลิตจะเริ่มทยอยออกสู่ตลาดตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. เป็นต้นไป คาดว่ามีแนวโน้มอาจปรับลดลงหากผลผลิตเข้าสู่ตลาดพร้อมกันจำนวนมาก ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิลดลงมาก เนื่องจากได้รับผลกระทบโควิด ทำให้กำลังซื้อในประเทศชะลอตัวลง ประกอบกับมีสต๊อกส่วนเกินของข้าวหอมมะลิเหลืออยู่ในประมาณ 1 แสนตัน เพราะนักท่องเที่ยวต่างประเทศไม่สามารถเดินทางเข้ามาในไทย ซึ่งปกติจะมีการบริโภคข้าวหอมมะลิจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้อยู่มากนอกเหนือไปจากการส่งออก
ขณะนี้ ผลกระทบด้านการส่งออก โดยราคาข้าวหอมมะลิของไทยแพงกกว่าคู่แข่งมาก เพราะราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1,100 ดอลลาร์ต่อตัน ทำให้ลูกค้าต่างชาติที่เป็นผู้ซื้อสำคัญหันไปซื้อข้าวราคาถูกกว่าจากประเทศคู่แข่ง เช่น เวียดนาม ที่มีข้าวพันธุ์พื้นนุ่มออกมาขายแข่งกับข้าวหอมมะลิ แต่มีราคาถูกกว่าราคาข้าวหอมมะลิของไทย เนื่องจากได้รับผลกระทบโควิด ทำให้เศรษฐกิจและกำลังซื้อของประเทศคู่ค้าลดลง อีกทั้งยังเป็นผลกระทบจากความเชื่อว่าผลผลิตข้าวปีนี้ของไทยจะดี ทำให้ลูกค้าต่างชาติชะลอคำสั่งซื้อ เพื่อรอผลิตออกมาก่อน ทำให้ราคาข้าวหอมมะลิจึงลดลงกว่าปีที่ผ่านมามาก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากระทรวงพาณิชย์จะมีนโยบายประกันรายได้ ซึ่งคาดว่าปีนี้อาจต้องจ่ายชดเชยให้กับชาวนาสูงกว่าปีทีผ่านมา เพราะราคาข้าวในตลาดต่ำกว่าเกณฑ์ราคาประกันมาก แต่ที่สมาคมฯเป็นห่วงคือมาตรการคู่ขนานในการพยุงราคาข้าวหอมมะลิไม่ให้ตกต่ำไปมากกว่านี้ ควรต้องเร่งดำเนินการออกมา เพราะขณะนี้โครงการประกันรายได้และมาตรการาคู่ขนานยังไม่เข้าครม. ซึ่งต้องการให้รัฐเร่งมาตรการฝากเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉาง โดยจ่ายค่ารับฝากให้กับเกษตกรและสหกรณ์ รวมถึงมาตรการให้โรงสีรับซื้อข้าวมาเก็บไว้ ด้วยการจ่ายชดเชยดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นมาตรการที่ชะลอไม่ให้ข้าวเปลือกออกพร้อมกันเข้ามาในตลาดมากเกินไป โดยปีนี้คาดว่าจะผลผลิตข้าวหอมมะลิอยู่ที่ 5.8-6 ล้านตันข้าวเปลือก
ส่วนราคาข้าวเปลือกเหนียวก็ปรับลดลงเฉลี่ย 40% เช่นกัน เนื่องจากผลผลิตปีนี้มากกว่าปีที่ผ่านมา และชาวนาภาคเหนือไม่การขายออกมาในตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยราคาข้าวเปลือกเหนียวอยู่ที่ประมาณ 7,500 บาท (ข้าวสด) ต่ำกว่าปีก่อนที่ราคาอยู่ที่ 10,000-12,000 หากเป็นข้าวแห้งราคาข้าวเปลือกเหนียวบางช่วงราคาสูงกว่าข้าวหอมมะลิ ซึ่งต้องการให้รัฐบาลเข้ามาดูแลการลักลอบนำเข้าข้าวเหนียวจากประเทศเพื่อนบ้าน เพราะจะยิ่งทำให้ราคาตกต่ำ นอกเหนือจากการใช้มาตรการเข้าไปรับซื้อข้าวเหนียวจากเกษตรกร