ฉกเอกสารชาวบ้านปลอมชื่อกู้สหกรณ์ฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ที่บ้านธาตุสามัคคี ม.12 ต.กุดจับ อ.กุดจับ กลุ่มชาวบ้านกว่า 10 คน ได้รับความเดือดร้อนถูกเอาชื่อไปกู้ยืม จากสหกรณ์การเกษตรศุภนิมิตกุดจับ รายละเกือบ 1 แสนบาท รวมแล้วกว่า 1 ล้านบาท ทางราชการรับรู้เรื่องแต่ผ่านมา 4 เดือนแล้ว ยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง จึงพร้อมใจมาให้ข้อมูลผ่าน "สื่อมวลชน" เพื่อเป็นปากเสียงทวงถามความจริง ความยุติธรรมให้ชาวบ้าน

ชาวบ้านร่วมให้ข้อมูลว่า เคยมีมูลนิธิฯดังกล่าวมาช่วยเหลือ ชาวบ้านได้มอบสำเนาบัตร-ทะเบียนบ้าน ไปประกอบความช่วยเหลือ แต่มีมือมืดนำเอกสารของชาวบ้านดังกล่าว นำไปใช้กู้ยืมกับสหกรณ์การเกษตรศุภนิมิตกุดจับ ทั้งที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ จนชาวบ้านมารู้ความจริง เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2563 เมื่อผู้ตรวจบัญชีสหกรณ์ มาหาชาวบ้าน 3 ราย จากการเพื่อสุ่มหาลูกหนี้สหกรณ์ฯที่ไม่ใช้หนี้ รวมเงินต้นและดอกเบี้ยกู้ 2 สัญญาราว 1 แสนบาทเศษ จึงทำบันทึกว่าไม่เคยกู้เงินดังกล่าวไป 



ต่อมาตัวแทนของสหกรณ์ฯในหมู่บ้าน ไปคุยกับชาวบ้านที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน ยอมรับว่าสหกรณ์ฯนำเอกสารชาวบ้าน  ไปทำสัญญากู้ซื้ออาหารหมูจริง พร้อมระบุมีใครบ้างที่ถูกนำชื่อไปกู้ และขอให้ชาวบ้านที่มีชื่อกู้เงิน หากมีผู้ตรวจบัญชีสหกรณ์มาพบ ให้บอกว่าได้ทำสัญญากู้ยืมจริง โดยผู้นำเอกสารไปกู้ จะชดใช้หนี้สินให้เอง แต่ชาวบ้านไม่ตกลงด้วย และไปแจ้งความที่ สภ.กุดจับ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน จำนวน 11 คน  และพบว่ามีหมู่บ้านอื่นไปแจ้งความด้วย  

หลังจากนั้นก็มีคนมาพบชาวบ้าน 3 รายแรก แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ไม่รู้ว่าหน่วยไหน นำเอกสาร"ใบเสร็จใช้หนี้" มาแจ้งว่าเงินกู้ 2 สัญญา รวม 90,000 บาทเศษ พร้อมดอกเบี้ย มีการชำระให้สหกรณ์ฯเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับสอบปากคำเพิ่มเติม เวลาผ่านมาเกือบ 5 เดือน ชาวบ้าน 3 รายแรกก็ยังไม่สบายใจ ว่ามีการใช้หนี้จริงหรือไม่ และชาวบ้านที่เหลือก็ไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง ว่าถูกปลอมเอกสารไปกี่บาท และเขาจะมาทวงหนี้ตอนไหน อีกทั้งมีชาวบ้านหมู่บ้านอื่นก็มีปัญหาเหมือนกัน    




นายถนอม น้อยสงวน อายุ 67 ปี กล่าวว่า ภรรยาถูกเอาชื่อไปกู้เงิน พอรู้เรื่องก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ เรื่องเริ่มจากมูลนิธิฯมาช่วยชาวบ้าน เอาลูกไก่ หรือลูกปลา มาให้เลี้ยงเป็นอาหาร หรือเสื้อผ้าเครื่องเรียนเด็ก ๆ ในหมู่บ้าน ชาวบ้านก็นำเอกสารไปรับการช่วยเหลือ แต่เอกสารชุดนี้กลายเป็นหลักฐานการกู้เงิน และเป็นหนี้อย่างที่แจ้งความไว้ 8-9 หมื่น พวกเราไม่สบายใจเพราะเราไม่ได้ยืม แจ้งความแล้วก็ไม่คืบหน้า หากมีหมายศาลมาคงแย่กว่านี้ ในชีวิตก็ไม่เคยกู้หนี้ยืมสิน จะไปทวงถามก็ไม่รู้จะไปอย่างไรไม่รู้จักใคร 

นายสำรวย รัตนภักดี อายุ 54 ปี ผญบ.บ้านธาตุสามัคคี กล่าวว่า ตัวแทนของสหกรณ์ฯยอมรับว่า นำเอกสารชาวบ้านไปกู้เงินจริง และจะรับใช้หนี้ทั้งหมด แต่ขอให้ชาวบ้านบอกกับผู้ตรวจสหกรณ์ฯว่ามีการกู้เงินจริง ซึ่งชาวบ้านก็ไม่มั่นใจว่า จะมีการใช้หนี้ให้จริง จึงแนะนำชาวบ้านไปแจ้งความ เพราะเงิน 9 หมื่นกว่าที่เป็นหนี้ ชาวบ้านไม่ได้ยืมจริง แต่แจ้งความแล้วก็ยังเงียบ ก็เกิดความไม่สบายใจ นี่เฉพาะชาวบ้านที่รู้ว่าถูกปลอมชื่อ จากตัวแทนของสหกรณ์ฯ ชาวบ้านที่นอนอยู่บ้าน ไปทำงานต่างจังหวัด ไม่รู้ว่าถูกปลอมชื่อไปกู้เงินอีกเท่าไหร่

นางบังอร ทองแดง อายุ 54 ปี ประธานสหกรณ์การเกษตรศุภนิมิตกุดจับ ชี้แจงว่า มีการตรวจสอบบัญชีงวดสิ้นปี 62 มีสมาชิกราว 800 ราย มีลูกหนี้ 277 ราย สัญญากู้ยืม 481 สัญญา เมื่อตรวจสอบพบปัญหาจึงสอบสวน ผู้ที่เกี่ยวข้อง (นายกฤษณะพล เวียงสิมา ผจก. และน.ส.อรมัย บัวชัย พนง.บัญชี) ยอมรับเป็นผู้ปลอมเอกสารจริง จึงให้พ้นจากหน้าที่ไปตั้งแต่ 12 สิงหาคม ที่ผ่านมา และมีแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.กุดจับ ไว้แล้ว ระหว่างนี้ได้เร่งตรวจสอบสัญญาทั้งหมด ตรวจสอบไปได้เพียง 65 ราย แยกเป็นปลอมเปลี่ยนแปลงยอดหนี้ 36 ราย 1,753,257.66 บาท ปลอมกู้จัดซื้ออาหารหมู 29 ราย 1,296,528.79 บาท  หรือทั้งหมดราว 3.4 ล้านบาท