สลด 2 พ่อลูกดับคาก้นบ่อบาดาลลึก 7 เมตร

จากการตรวจสอบภายในวงบ่อลึกขนาด 7 วงบ่อ พบร่างชาย 2 รายหมดสตินอนกองกันอยู่บริเวณก้นบ่อ ทราบชื่อคือนายบุญส่ง มากโภคา อายุ 59 ปี และนายภานุพันธ์ มากโภคา อายุประมาณ 25-30 ปี ทั้ง 2 คนเป็นพ่อลูกกัน พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 31 ม.10 ต.วังอิทก อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่สามารถโรยตัวลงไปบริเวณก้นบ่อได้เนื่องจากมีก๊าซไข่เน่าฉุน จึงต้องใช้วิธีทำห่วงเชือกลงไปคล้องที่ร่างของนายภานุพันธ์ มากโภคา ซึ่งเป็นลูกและอยู่ด้านบน ก่อนจะช่วยกันดึงร่างขึ้นมาได้เป็นผลสำเร็จ

จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงใช้เชือกลงไปคล้องร่างของนายนายบุญส่ง มากโภคา ผู้เป็นพ่อที่อยู่บริเวณก้นบ่อ แต่นำขึ้นมาด้วยความยากลำบากเพราะร่างของนายบุญส่ง ขัดอยู่กับเครื่องด้านล่าง ต้องใช้วิธีคล้องร่างเพื่อขยับจุดที่ขัดกับเครื่องจนสามารถนำร่างนายบุญส่ง ขึ้นมาได้เป็นผลสำเร็จ แต่ก็ไม่มีปาฏิหาริย์เพราะนายบุญส่งได้เสียชีวิตแล้วเช่นเดียวกัน ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัวที่ต้องมาสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปพร้อมๆ กัน ถึง 2 คน

นายณรงค์ ตุ้มพงศ์ อายุ 53 ปี เพื่อนบ้านได้บอกว่า ปกติแล้วผู้เสียชีวิตก็ลงไปประจำในบ่อ วันนี้ช่วงเวลา 08.00 น.ก็มากัน 2 คน คนพ่อลงไปก่อน ตั้งใจลงไปขันซีน อัดจาระบี ลูกชายคนเล็กตามมาเจอคงเห็นพ่อหมดสติอยู่บริเวณก้นบ่อ ก็เลยรีบลงไปก้นบ่อเพื่อจะช่วยพ่อขึ้นมา แต่เนื่องจากด้านล่างมีก๊าซไข่เน่าคงหมดแรงก่อน

ส่วนตัวลูกชายคนโตอีกคนตามมาเจอเห็น พ่อกับน้องชายหมดสติเลยลงไปช่วยแต่ก็หมดแรงเช่นเดียวกัน แต่โชคดีที่พี่ชายคนโตเอาเชือกมัดตัวเองไว้ด้วยตอนที่โรยตัวลงไป แต่ทนไม่ไหวเริ่มหายใจไม่ออกร่างกายอ่อนแรงเพราะมีกลิ่นก๊าซไข่เน่าจึงรวบแรงตัวเองดึงเชือกพาตัวเองขึ้นมา แล้วรีบโทรแจ้งญาติกับเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ทันการณ์ พ่อและน้องชายเสียชีวิตไปแล้ว

ด้านนายสัตยา นวลทิม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 ม.9 ต.วังอิทก อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านเล่าให้ฟังถึงลักษณะของบ่อว่า บ่อนี้ลึก 7 วงบ่อ เป็นลักษณะแนมคู่ไว้ 2 อัน ใช้ดึงน้ำอันหนึ่ง เจาะไว้คู่กัน 2 อันในวง เพราะท่อเก่าดึงน้ำไม่ขึ้นแล้ว เวลาน้ำขึ้นมันจะดันก๊าซขึ้นจากท่อเก่า ส่วนใหญ่ก็จะมีก๊าซแบบนี้ ชาวบ้านแถวนี้็จะลงไป ถ้าไม่ลึกมาก ไม่มีกลิ่นก๊าซก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ส่วนใหญ่มันจะมีก๊าซ ที่บ้านตนเมื่อปีที่แล้วก็เป็นเหตุการณ์แบบนี้ มีคนเสียชีวิต 1 คน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย นำส่งชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุของการเสียชีวิต ที่นิติเวชโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ก่อนจะมอบร่างให้กับญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป