ผู้ว่าการรัฐวิสคอนซินของสหรัฐระดมเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิลงพื้นที่เมืองคีโนชา เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นควบคุมสถานการณ์ประท้วงรุนแรงครั้งใหม่ ซึ่งมีชนวนจเหตุมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาว ซึ่งได้ใช้อาวุธปืนยิงชายผิวสี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ แต่มีการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุอีกครั้ง จนทำให้ประชาชนในเมืองเกิดความไม่พอใจ และลุกฮือขึ้นมาเผารถยนต์ รวมทั้งอาคารบ้านเรือน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองคีโนชา รัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ว่า นายโทนี เอเวอร์ส ผู้ว่าการรัฐวิสคอนซิน มีคำสั่งฉุกเฉินเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ อย่างน้อย จำนวน 125 นาย ลงพื้นที่ทางตอนใต้ของ เมืองคีโนชา เพื่อรักษาความสงบในการควบคุมเหตุประท้วงและจลาจล ซึ่งเป็นผลมาจากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาวยิงชายผิวสี ในระยะประชิด จนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ขณะเดียวกัน นายจอห์น อันทาราเมียน นายกเทศมนตรีเมืองคีโนชา ได้ออกประกาศเคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 20.00 น. ถึง 07.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยคำสั่งนี้มีผลบังคับใช้อย่างไม่มีกำหนด ขณะที่ผู้ว่าการรัฐวิสคอนซินและนายกเทศมนตรีเมืองคีโนชากล่าวเป็นเสียงเดียวกัน ขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ และรอผลการสอบสวนอย่างเป็นทางการอีกครั้งจากกระทรวงยุติธรรมในกรุงวอชิงตัน และสำนักงานตำรวจรัฐวิสคอนซิน
ทั้งนี้ การประท้วงเกิดขึ้นทันที และทวีความรุนแรงเป็นลำดับ หลังปรากฏคลิปภาพช่วงเวลาเผชิญหน้าระหว่างชายผิวสี ซึ่งทราบชื่อต่อมาคือ นายจาค็อบ เบลค อายุ 29 ปี กับเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาว จำนวน 3 นาย โดยขณะเกิดเหตุ "จาค็อบ เบลค" ได้เดินวนจากท้ายรถมายังด้านประตูคนขับ แล้วในจังหวะที่กำลังเปิดประตู แล้วก้าวขึ้นรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาวคนหนึ่ง ได้ดึงตัว "จาค็อบ เบลค" เอาไว้ จากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น 7 นัด ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันอาทิตย์ที่ 23 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฯ ได้นำตัว "จาค็อบ เบลค" เข้ารักษาอาการที่โรงพยาบาลในเมืองมิลวอกี ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของรัฐ โดยอาการล่าสุดพ้นขีดอันตรายแล้ว