(7 สิงหาคม 2563) นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบจากการเข้าร่วมความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีการนำเรื่องการเข้าร่วมเจรจากับ CPTPP เข้าคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ดังนั้น ประชาชนที่คัดค้านการเข้าร่วม CPTPP ขอให้สบายใจได้ ว่าทางรัฐบาลจะต้องใช้เวลาศึกษาข้อดี ข้อเสีย ผลกระทบ ถ้าไทยจะเข้าร่วม CPTPP อีกอย่างน้อย 1 ปี
"ในส่วน กมธ. CPTPP ของสภาฯ ขณะนี้กำลังทุ่มเทศึกษาข้อดี ข้อเสีย ผลกระทบ ต่อทุกภาคส่วนในประเทศ กมธ.ทุกคนทำงานอย่างหนัก มีการประชุม กมธ. และ 3 อนุ กมธ. รวมสัปดาห์ละ 7-8 ครั้ง เพื่อเร่งหาข้อสรุปส่งให้สภาฯ รัฐบาล และประชาชนทั่วประเทศ ให้ได้รับทราบข้อเท็จจริงเรื่อง CPTPP ในทัศนะของ กมธ." นพ.ระวี กล่าว
อย่างไรก็ตาม การทำงานของกมธ. CPTPP นอกจาก ส.ส.จากทุกพรรคแล้ว ยังมีข้าราชการจากเกือบทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีนักวิชาการ และภาคประชาชนที่คัดค้านการเข้าร่วม CPTPP เช่น ตัวแทนกลุ่ม FTA WATCH จึงมีการแลกเปลี่ยนข้อมูล ถกเถียงกันอย่างจริงจังทุกมุมมอง และทุกประเด็น มีการนำเอกสารฉบับจริงมาอ่าน ตีความหมาย อีกทั้ง หลายประเด็นมีความเข้าใจไม่ตรงกัน ทาง กมธ. ก็มีการส่งหนังสือสอบความไปขอคำตอบจากทาง CPTPP โดยตรง
"สิ่งที่เป็นความคิดเห็นร่วมของ กมธ.จากการแสดงความคิดเห็นในที่ประชุม พบว่าแม้จะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีข้อเสียหลายประการเช่นกัน แต่ กมธ.ส่วนมากพบข้อมูลว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่พร้อมที่จะเข้าร่วม CPTPP เราต้องมีการเตรียมตัว ยกระดับมาตรฐานในเกือบทุกด้าน เพื่อให้ทุกภาคส่วนของไทยสามารถรองรับการทำสัญญา FTA, CPTPP, ฯลฯ กับนานาประเทศ ที่อาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคต" นพ.ระวี กล่าว