น้ำหลาก อ.เชียงกลาง เข้าสู่ปกติ ได้น้ำลงอ่าง9แห่ง
น้ำหลากเชียงกลาง มาเร็ว ไปเร็ว เข้าสู่สภาวะปกติ ยืนยันไม่มีพื้นที่ใดวิกฤต แต่ยังเฝ้าระวังฝนอีก1วัน ขณะที่ปภ.เร่งสำรวจผลกระทบเกษตรกร เผย อิทธิพลพายุ ซินลากูเพิ่มน้ำในอ่างเก็บน้ำ5 แห่ง ถึง80%
หลังจากอิทธิพลของพายุฝนเคลื่อนผ่าน ทำให้เกิดฝนตกหนัก มวลน้ำหลาก เข้าท่วมพื้นที่ หมู่ 7 ตำบลพญาแก้วบ้านงิ้ว หมู่ 9 ตำบลเชียงกลาง อำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน ล่าสุดจากการสำรวจพื้นที่ จุดสะพานบ้านม่วง หมู่ที่7 พบว่า สถานการณ์น้ำหลากเข้าสู่สภาวะปกติเเล้ว ความรุนแรงของน้ำที่หลากเข้ามาว่นนี้ ทำให้พืชผลทางการเกษรของาวบ้าน นาข้าว ข้าวโพดที่กำลังออกฝัก เสียหายราบเป็นหน้ากลอง โดยมวลน้ำระบายไหลลงสู่ทางสายใต้ จากเชียงกลางลง อ.ปัว อ.ท่าวังผา และ อ. เมืองน่าน ภูเพียง เวียงสา ซึ่งเวลานี้มวลน้ำหลาก อยู่ที่ แม่น้ำน่าน อ.ท่าวังผา ทำให้หลากท่วมในพื้นที่ลุ่มแอ่งกะทะนายจรัสพันธ์ อรุณคง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน. เปิดเผยกับเนชันทีวีระบุว่า ขณะนี้ไม่มีพื้นที่ใดอยู่ในสภาวะวิกฤต และ ลำน้ำน่าน สามารถรองรับน้ำที่จะไหลระบายลงสู่ตอนล่างระดับน้ำน่านทรงตัว มีเอ่อล้นที่ท่าวังวังผา 30 เซนติเมตรเมื่อช่วงเช้า และค่อยๆ เริ่มลดลงเเล้ว หากฝนไม่ถ้าไม่ตกลงมาอีก แต่ยังคงเเจ้งเตือนประชาชนถึงวันที่ 4สิงหาคม ผลพวงจากอิทธิพลของพายุ ทำให้เก็บน้ำเข้า 40% 4แห่งมและอ่างหลัก 5 แห่ง ได้ถึง 80% ส่วนผลกระทบของพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านอยู่ระหว่างสำรวจ และเร่งซ่อมเเซมถนนที่ถูกตัดขาด2แห่ง ที่บ้านวนาไพร อุทกภัยในครั้งนี้ได้นำไว้ ส่วนผลกระทบกับประชาชนไม่ได้รุนแรงมากนัก
สำหรับมวลน้ำจากท่าวังผา ไปสู่เมือง จากเมืองไปสู่เวียงสา ล้นตลิ่งเพียง10เซนติเมตร แต่ได้เเจ้งเตือนชาวบ้านไว้ล่วงหน้าแล้วจึงไม่มีผลกระทบอะไร หากย้อนหลับไปในช่วงวันเดียวกันของปีที่เเล้ว 4 สิงหาคม 2562 เป็นวันที่พายุ "วิภา" พัดเข้ามาในพื้นที่แม่จริม ในขณะที่ยังเป็นพายุโซนรัอนแล้วเคลื่อนผ่านอำเภอปัว ทำให้เกิดฝนตกหนัก ทำให้พื้นที่ทางบ่อเกลือเกิดน้ำป่าและดินถล่ม แต่ในปีนี้ภาพรวมความเสียหาย อยู่ในพื้นที่ของอำเภอ เชียงกลาง เเละ อ.ท่าวังผา สำหรับเส้นทางที่ใช้เดินทางภายในจังหวัดน่าน เดินทางได้เป็นปกติ