svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เร่งทวงสิทธิ์ "เงินเดือน-สวัสดิการ" พนักงานมหาวิทยาลัย

"เนชั่นทีวี" นำเสนอข่าวดีของอาจารย์และบุคลากรในมหาวิทยาลัยที่มีสถานะเป็น "ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา" ซึ่งมีปัญหาเงินเดือนเหลื่อมล้ำกับข้าราชการครูในสังกัดอื่นๆ อยู่ 8% เป็นเวลานานถึง 9 ปี ปรากฏว่าทางกระทรวงอุดมศึกษาฯ กำลังจะคืนสิทธิ์ให้ พร้อมเยียวยาย้อนหลังไปถึงปี 54 ซึ่งจะได้เงินเดือนคืนคนละราวๆ 3 แสนบาท

ล่าสุดวันนี้มีข่าวดีของบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้เป็นข้าราชการ แต่บรรจุในตำแหน่งที่เรียกว่า "พนักงานมหาวิทยาลัย" หรือ "พ.ม." ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มหาวิทยาลัยรับตรง และต้องทำสัญญาจ้างกับมหาวิทยาลัย ปรากฏว่าพนักงานกลุ่ม "พ.ม." มีปัญหาถูกมหาวิทยาลัยหักเงินเดือนเอาไว้ส่วนหนึ่ง อ้างว่าเพื่อทำกองทุนสวัสดิการ แต่หลายมหาวิทยาลัยกลับเงินไปใช้อย่างอื่น ทำให้ "พ.ม." รับเงินเดือนไม่เต็มจำนวนตามที่มติคณะรัฐมนตรีกำหนด เป็นแบบนี้มานานถึง 21 ปีแล้ว 

สำหรับเรื่องถูกหักเงินเดือนโดยไม่ชอบธรรมนี้ มีพนักงานมหาวิทยาลัยทนไม่ไหว ยื่นฟ้องศาลปกครอง และชนะคดีมาแล้ว 2 ศาล คือศาลปกครองเชียงใหม่ กรณีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และศาลปกครองกลาง กรณีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำให้ "ที่ประชุมประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการแห่งประเทศไทย" หรือ "ทปสท." พร้อมองค์กรเครือข่าย เคลื่อนไหวผลักดันกระทั่งมีหลายมหาวิทยาลัยยอมจ่ายเงินเดือนเต็มตามจำนวน หรือใกล้เคียงกับอัตราที่มติ ครม.กำหนด 


เช่น มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ เป็นต้น ส่วนอีกหลายมหาวิทยาลัยที่ยังนิ่งเฉย ทาง ทปสท.ได้เรียกร้องให้กระทรวงอุดมศึกษาฯ ประกาศมาตรการกลางในเรื่องนี้เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกันต่อไป 

อีกปัญหาหนึ่งของพนักงานมหาวิทยาลัย คือไม่มีกฎหมายรองรับบุคลากรตำแหน่งนี้ ทำให้การบริหารงานบุคคลเป็นอำนาจของมหาวิทยาลัยฝ่ายเดียว ในฐานะเจ้าของสัญญาจ้าง ทำให้ฝ่ายบริหารมหาวิทยาลัยมีอิทธิพลเหนือกว่า หากกลุ่ม "พ.ม." เคลื่อนไหวอะไรที่ส่งผลลบกับผู้บริหาร เช่น ตรวจสอบทุจริต ก็จะถูกเลิกสัญญาจ้างทันที 


เรื่องนี้ ดร.เชษฐา ทรัพย์เย็น ประธาน ทปสท.บอกว่า กำลังเร่งขับเคลื่อนให้มีร่างพระราชบัญญัติพนักงานมหาวิทยาลัย ซึ่งทาง ทปสท.และเครือข่ายยกร่างเสร็จแล้วจากการเดินสายรับฟังความเห็นจาก "พ.ม." ทั่วประเทศ โดยได้นำเสนอร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ทั้งทางฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร โดยคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎรได้รับไปพิจารณา และมีมติเห็นชอบสนับสนุน พร้อมส่งหนังสือไปให้กระทรวงอุดมศึกษาฯ รับไปดำเนินการต่อ 


ล่าสุดกระทรวงอุดมศึกษาฯ ได้นำเรื่องเข้าที่ประชุม ก.พ.อ. หรือคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาแล้ว มีมติให้ "อนุ ก.พ.อ." เกี่ยวกับการพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลในสถาบันอุดมศึกษา ที่มี ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เป็นประธาน นำไปพิจารณาในรายละเอียดต่อไป 

ดร.เชษฐา ย้ำว่า การผลักดันกฎหมายฉบับนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะบุคลากรในมหาวิทยาลัยตอนนี้ ส่วนใหญ่มีสถานะเป็น "พ.ม." คือมีจำนวนมากกว่า 1 แสนคน คนกลุ่มนี้ไม่มีบำเหน็จบำนาญ ไม่มีสวัสดิการเหมือนข้าราชการ จึงมีความเปราะบางอย่างมาก แต่กลับไม่มีกฎหมายอะไรดูแลสิทธิ์และสวัสดิการของพวกเขาได้เลย เหมือนกับเงินเดือนตามมติ ครม. ที่ต้องได้รับมากกว่าข้าราชการ 1.7 เท่าในสายผู้สอน และ 1.5 เท่าในสายสนับสนุน ก็ยังถูกมหาวิทยาลัยหักเงินเอาไว้อย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งปัญหาทั้งหมดนี้มาจากการไม่มีกฎหมายรองรับตำแหน่งพนักงานมหาวิทยาลัยนั่นเอง