svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เปิดกลวิธีโปลิศ!"ขู่"ก่อน"จ่าย"ให้เรื่องจบ

11 มิถุนายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กระแสการเรียกรับส่วยจากแวดวงของคนในเครื่องแบบ นับเป็นปัญหาที่ฝังรากลงลึกมาหลายยุคสมัย แต่บางครั้งคราวก็ไม่ได้เกิดเหตุลักษณะนี้ทุกครั้งไป เพราะคนเคยตกเป็นเหยื่อยที่ออกมาเปิดโปงพร้อมส่งเสียงเรียกร้องขอความเป็นธรรม แต่มากลับลำคำให้การภายหลัง

(11 มิถุนายน 2563) พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร อดีตรองจเรตำรวจ ในฐานะอดีตตำรวจผู้ผลักดันให้เกิดการปฏิรูปวงการสีกากี ให้สัมภาษณ์กับทาง "เนชั่นทีวี" วานนี้ (10มิ.ย.) โดยระบุว่า ที่ผ่านมาเวลาถูกกล่าวหาพัวพันถึงตัวเอง ตำรวจก็จะใช้สูตรนี้ในการ "เป่าคดี" หรือทำให้เรื่องจบแทบทุกครั้ง คือ วิธีที่เรียกว่า "ทั้งขู่ ทั้งจ่าย"

อดีตรองจเรตำรวจ กล่าวต่อว่า ซึ่งวิธีการ คือ ข่มขู่ เพื่อหว่านล้อมเหยื่อว่า ถ้าเดินหน้าร้องเรียนต่อไปไม่มีทางจบ ขณะเดียวกัน ก็เจรจาให้ยอมถอนแจ้งความ ถอนข้อกล่าวหา หรือกลับคำให้การ เพื่อแลกกับเงินก้อนโตที่ฝ่ายตำรวจผู้ถูกกล่าวหาเสนอให้ โดยอ้างว่าถ้ายอมถอน ก็จะได้เงินใช้ แต่ถ้าเดินหน้าเอาเรื่องต่อไป นอกจากจะไม่ได้เงินแล้ว ยังไม่รับประกันความปลอดภัยในช่วงที่ข่าวเงียบไป


เปิดกลวิธีโปลิศ!"ขู่"ก่อน"จ่าย"ให้เรื่องจบ

"หากเหยื่อยินยอมตกลง ก็จะพิมพ์คำให้การพร้อมสรรพ แล้วให้เหยื่อลงชื่อ จากนั้นก็ให้ย้ายที่อยู่ หลบสื่อไปสักพักหนึ่ง ถือเป็นสูตรสำเร็จที่ตำรวจนอกแถวทำกันมาตลอด พฤติกรรมของตำรวจเหล่านี้ "จับประชาชนเรียกค่าไถ่" คือ จับกุมความผิดเล็กๆ น้อยๆ หรือไม่ก็รีดไถเอาดื้อๆ ถ้าได้ก็ดีไป ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะได้ เพราะประชาชนไม่อยากมีเรื่องกับตำรวจ แต่ถ้าพลาด ก็ถือว่า "ซวย" ต้องคืนกำไร จ่ายทั้งผู้เสียหายและเจ้านายที่เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวน" พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าว

สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าว พ.ต.อ.วิรุตม์ ระบุว่า ต้องแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้การสอบปากคำผู้ต้องหา มีการบันทึกภาพและเสียงเป็นหลักฐานทุกครั้ง เพราะปัจจุบันร่างกฎหมายฉบับนี้ อยู่ในกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา

logoline