สศช.คาด'แรงงาน'เสี่ยงเตะฝุ่น 14 ล้านคน

ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระบุ ประเมินว่าความเสี่ยงที่แรงงานจะถูกเลิกจ้างสูงถึง 8.4 ล้านคน แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มควบคุมได้และในครึ่งปีหลังเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจบางประเภทเปิดดำเนินการได้มากขึ้น รัฐบาลมีมาตรการในการช่วยเหลือ และฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยเน้นการกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ และภาคเกษตรกรรมจะสามารถรองรับแรงงานที่ว่างงานได้บางส่วนแม้ว่าจะมีปัญหาภัยแล้ง คาดการณ์ว่าปี 2563 ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และปัญหาภัยแล้งจะกระทบต่อการจ้างงานอยู่ที่ 3-4% หรือทั้งปีมีคนว่างงานไม่เกิน 2 ล้านคนใกล้เคียงกับวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540
สำหรับไตรมาส 1 ปี 2563 ผู้มีงานทำ 37,424,214 คน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.7% จากการจ้างงานภาคเกษตรที่ลดลง 3.7% ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งที่มีความรุนแรงและต่อเนื่องตั้งแต่กลางปี 2562 ขณะที่การจ้างงานนอกภาคเกษตรกรมยังคงขยายตัวได้เล็กน้อยที่ 0.5% จากการขยายตัวของการจ้างในสาขาโรงแรมและภัตตาคาร และสาขาการศึกษา ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่แสดผลกระทบในจำนวนการจ้างงานภาคบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวมากนัก ส่วนหนึ่งเนื่องจากในช่วงเดือนมกราคม-ต้นมีนาคม การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงจำกัดอยู่ในบางพื้นที่และผู้ประกอบการยังรอดูสถานการณ์ของผลกระทบ ส่วนผู้ว่างงานมีจำนวน 394,520 คน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน 1.03% เพิ่มขึ้นจาก 0.92% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว
สำหรับสถานการณ์หนี้ครัวเรือนสัดส่วนอยู่ที่ 78.9% ต่อจีดีพี สูงที่สุดในรอบ 14 ไตรมาส หรือประมาณ 3 ปีครึ่ง แต่ปีนี้มีปัจจัยโรคโควิด-19 ทำให้ขนาดเศรษฐกิจลดลง ครัวเรือนกู้เงินประกอบธุรกิจ เช่าซื้อรถยนต์และอสังหาริมทรัพย์ลดลง แต่กู้เงินอุปโภคบริโภคมากขึ้นแทน ซึ่งในระยะยาวน่าเป็นห่วง ส่วนอัตราหนี้เสีย หรือ NPL ตอนนี้อยู่ที่ 3.23% ต่อสินเชื่อรวม ปรับตัวสูงขึ้นจาก 2.9% ในช่วงสิ้นปีที่แล้ว