ฝนตกถนนลื่น-ข้อควรระวัง

ฝนตกถนนลื่น คำคำ..นี้ มักใช้ได้ดีอยู่เสมอ ยิ่งในช่วงหน้าฝนด้วยแล้ว บนพื้นผิวถนนจะมีคราบน้ำมันจากท่อไอเสีย เกาะหรือฉาบอยู่บนถนนในทุกเส้นทาง และเจ้าคราบน้ำมันนี้แหละ.! เมื่อฝนตกลงมาในช่วงแรกๆ มันจะกระจายตัวไหลฉาบผิวถนนไปทั่วบริเวณนั้นๆ
หากผู้ใช้รถใช้ถนน ขับรถยนต์มาผ่านไป-ผ่านมา และเมื่อต้องเหยียบเบรกในช่วงที่มีเจ้าคราบน้ำมันนี้ด้วยแล้ว รถที่ขับมาก็จะเกิดอาการสะบัด หรือหากรถคันใดที่ขับมาด้วยความเร็วสูง ก็อาจจะทำให้รถเกิดอาการไถลลื่น หรืออาจถึงขั้นบังคับไม่อยู่เลยก็ว่าได้

ทันทีที่รถเกิดอาการสะบัด หรือไถลลื่น ช่วงจังหวะนี้..! อยากจะขอบอกกับผู้ขับขี่ หรือผู้ใช้รถใช้ถนนเอาไว้ตรงนี้..เลยนะครับว่า อาการแบบนี้ เกิดจากการที่เหยียบเบรก จนทำให้ล้อล็อค หรือล้อไม่คลายตัว เนื่องจากผู้ขับขี่จะอยู่ในอาการตกใจ ดังนั้น ข้อปฎิบัติที่สำคัญและท่องให้ขึ้นใจ คือ ให้แตะคันเร่ง..เบาๆ เพื่อให้ล้อรถสามารถหมุนได้ และสามารถตะกุยถนน รวมทั้งปรับทิศทางไปในทางที่ต้องการ จากนั้นจึงหักพวงมาลัยรถหลบ หรือปรับทิศทางให้กลับเข้ามาอยู่ตามที่ต้องการ หรือตามเดิมสำหรับรถที่มีอาการเหินน้ำ จะเกิดขึ้นในช่วงที่ถนนเปียก..หรือมีน้ำขัง หากยางรถยนต์ไม่สามารถรีดน้ำได้ ก็จะทำให้ยางรถยนต์ไม่สัมผัสกับพื้นถนน ทำให้รถเสียการควบคุมเกิดการลื่นไถล และหากผู้ขับขี่จับพวงมาลัยไม่แน่น หรือเหยียบเบรกแบบกะทันหัน ยิ่งจะทำให้รถหมุนคว้าง เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่ร้ายแรงได้

นอกจากนี้ปัจจัยที่ก่อให้เกิดอาการเหินน้ำ ยังประกอบไปด้วย การขับรถด้วยความเร็วมีส่วนทำให้ล้อรีดน้ำได้น้อยลง เนื่องจากเมื่อรถมีความเร็ว หน้ายางของล้อก็จะสัมผัสพื้นผิวถนนได้น้อยลง ทำให้ชั้นของน้ำหนาขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการเหินน้ำและน้ำหนักรถยนต์มีส่วนกับการทำให้เสียการควบคุม และมีแรงเฉื่อยมาก ด้วยเช่นกัน
สำหรับยางรถยนต์ ดอกยางจะทำหน้ารีดน้ำออกไปด้านข้างล้อ ซึ่งหากดอกยางเหลือเพียงแค่ครึ่งเดียว ความเร็วในการรีดน้ำก็ลดลงไปด้วยเช่นกัน และพื้นถนนประเภทคอนกรีต ก็มีโอกาสเกิดการเหินน้ำมากกว่าถนนยางมะตอย เนื่องจากมีน้ำตามรูร่องของพื้นถนน ส่วนล้อรถยนต์ที่มีหน้ากว้าง และยาว โอกาสที่รถจะเกิดการเหินน้ำ ก็จะน้อยลง เพราะหน้ายางจะสามารถสัมผัสพื้นผิวถนนได้มากกว่า

ทั้งนี้ สำหรับวิธีป้องกันอาการเหินน้ำ ควรที่จะขับรถให้ช้าลงในช่วงที่มีฝนตก หรือขับรถตามคันหน้า เพราะจะเห็นได้ว่า มีการกระจายตัวของน้ำบริเวณใดบ้าง โดยควรเว้นระยะห่างระหว่างรถคันหน้าไว้พอสมควร เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ หรือหากฝนตกหนักๆ ก็ควรที่จะขับรถในเลนกลาง เพราะแอ่งน้ำมักอยู่บริเวณเลนนอก หรือเลนด้านใน
อีกสิ่งที่ควรหมั่นตรวจตรา คือควรเติมลมยางให้เหมาะสม เพราะหากลมยางอ่อนเกินไป ก็จะมีส่วนทำให้เกิดอาการเหินน้ำได้ ที่สำคัญในช่วงทางโค้ง ห้ามเหยียบกระทันหัน เพราะจะทำให้ตัวรถสะบัดและหมุนได้ ควรที่จะขับช้าๆ ในช่วงทางโค้ง ทั้งนี้ หากรถเกิดอาการเหินน้ำให้จับพวงมาลัยเอาไว้ให้แน่นๆ ห้ามเหยียบเบรก หรือหักพวงมาลัยกระทั่นหัน ควรแตะเบรกเบาๆ และปล่อยให้รถค่อยๆชะลอตัวและหยุดลง