svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ไชยวัฒน์"บี้กกต.สอบ"ก้าวหน้า-ก้าวไกล"ปมแจกเงินสู้โควิด-19

14 พฤษภาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ที่ปรึกษารมช.มหาดไทย"จี้"กกต."ตรวจสอบพฤติการณ์"ก้าวหน้า-ก้าวไกล"เกี่ยข้องกันหรือไม่ กรณีนำเงิน 7 ล้านบาท ที่ได้จากการระดมเพื่อช่วยประชาชนได้รับผลกระทบโควิด-19 ย้ำทุกสตางค์ต้องคิดเป็นค่าใช้จ่ายของพรรคด้วย

(14 พฤษภาคม 2563) นายไชยวัฒน์ ไตรยสุนันท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะที่ปรึกษา รมช.มหาดไทย ระบุว่าจากการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วางแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการให้เงิน ทรัพย์สิน ประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในกรณีพรรคการเมือง การให้ในแต่ละโอกาส เมื่อมีเหตุอันสมควร และเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยพิบัติ โดยมีราคาหรือมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาท ส่วน ส.ส. และผู้ดำรงตำแหน่งในการพรรคการเมือง สมาชิกพรรคการเมือง แจกได้ไม่เกิน 3 แสนบาท ถ้าเกินจำนวนดังกล่าวให้คิดเป็นค่าใช้จ่ายเลือกตั้งครั้งต่อไปนั้น
นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า ส่วนตัวต้องการให้ กกต. พิจารณาถึง กรณีที่แกนนำ "คณะก้าวหน้า" และอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นำเงินบริจาคกว่า 7 ล้านบาท มาแจกเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากโควิด-19ว่าคณะก้าวหน้ากับพรรคก้าวไกล มีผลประโยชน์ร่วมกัน เป็นกลุ่มคนคณะเดียวกันหรือไม่ แม้คณะก้าวหน้าชี้แจงว่าการแจกเงินคนละ 3,000 บาท ไม่ใช่เงินของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า และอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แต่เป็นเงินที่ได้รับบริจาคมา อย่างไรก็ตาม คณะก้าวหน้าก็เป็นผู้นำมาบริจาค ซึ่งเป็นจำนวนเงินรวมเกิน 3 ล้านบาท และเข้าหลักเกณฑ์ตามที่ กกต. ประกาศ
"ผมอยากให้ กกต. ดำเนินการตรวจสอบด้วย เพราะสิ่งที่คณะก้าวหน้าทำ แม้เป็นในนามของคณะก้าวหน้า แต่ก็มั่นใจว่าเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของพรรคก้าวไกล ดังนั้น กกต. จะต้องบันทึกไว้ว่าเป็นเงินที่จะต้องกำหนดเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งในคราวถัดไป ไม่ว่าจะเลือกตั้งปีไหนก็ตาม ก็ต้องเอายอดเงิน 7 ล้านบาทนี้ มากำหนดไว้ว่าพรรคก้าวไกลมียอดค่าใช้จ่ายไปแล้วในจำนวนดังกล่าวด้วย"ที่ปรึกษา รมช.มหาดไทย ระบุ

นายไชยวัฒน์ กล่าวต่อว่า หาก กกต. ไม่รับพิจารณา หรือจะอ้างว่าไม่มีการยื่นคำร้องให้ตรวจสอบ ทำให้ กกต. พิจารณาไม่ได้ ส่วนตัวก็ยินดีจะไปยื่นเรื่องนี้เพิ่มเติมอีกประเด็น นอกเหนือจากที่ได้เคยให้ข้อสังเกตไว้ก่อนหน้านี้ว่า คณะก้าวหน้าได้รายชื่อประชาชนไปกว่าล้านคนจากการบริจาค ซึ่งก็ถือว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายไม่สุจริต ดังนั้น เมื่อมีผู้กระทำความผิด กกต. ได้รับทราบเป็นสาธารณะแล้ว ก็ไม่น่าจะต้องรอให้มีคนไปร้อง เพราะโดยปกติจากการโกงการเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา เมื่อ กกต. พบการกระทำผิด ก็สามารถดำเนินการได้ทันทีอยู่แล้ว
"หาก กกต. ยืนยันเข้มงวดในแนวปฏิบัติในเรื่องเดียวกันนี้ ก็ต้องมีผลบังคับให้ทั่วถึง เพราะ กกต. เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่เสมือนศาลเลือกตั้ง ก็ต้องวินิจฉัยกรณีคณะก้าวหน้าด้วย เว้นแต่จะผ่อนคลายมาตรการการคำนวณเงินบริจาคเมื่อ กกต. มีระเบียบว่าไว้ในเรื่องการบริจาค ก็ต้องมาวินิจฉัยในกรณีของคณะก้าวหน้า กับพรรคก้าวไกลไว้ก่อน แต่ถ้า กกต. บอกว่าจะการผ่อนคลายมาตรการการคำนวณเงินบริจาค ให้ทุกพรรคการเมืองทำได้ผมก็ไม่ติดใจ เพราะเห็นใจว่าประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ควรได้รับการช่วยเหลือ แต่ถ้าตราบใดที่มีข้อบังคับนี้อยู่ พรรคการเมืองที่เคารพ กฎ ระเบียบ ก็เสียเปรียบ" นายไชยวัฒน์ กล่าว

logoline