svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ศบค. แถลง ไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 28 ราย สะสม 2,700 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย

17 เมษายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ COVID-19 เผยไทยป่วย #COVID19 ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 28 ราย ป่วยสะสม 2,700 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เสียชีวิตสะสม 47 ราย รักษาหายและกลับบ้านได้ 1,689 ราย ระบุ สัปดาห์หน้าที่ประชุม ศบค. เตรียมถกผ่อนปรนมาตรการปิดร้านตัดผม - ห้างสรรพสินค้า พร้อมออกข้อปฏิบัติผู้ประกอบการ-ผู้ใช้บริการ

วันนี้ (17 เม.ย. 2563) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าวสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ประจำวันศุกร์ที่ 17 เมษายน 2563 ในประเทศไทยอยู่อันดับที่ 51 ของโลก วันนี้พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 พบมีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น 28 ราย รวมยอดสะสม 2,700 คน เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน เสียชีวิตสะสม 47 ราย รักษาหาย 96 ราย รวมรักษาหายและกลับบ้านแล้ว 1,689 ราย

ศบค. แถลง ไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 28 ราย สะสม 2,700 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย

ศบค. แถลง ไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 28 ราย สะสม 2,700 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย

ศบค. แถลง ไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 28 ราย สะสม 2,700 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย

โดยผู้เสียชีวิตรายล่าสุด เป็นหญิงไทย อายุ 85 ปี ประกอบอาชีพแม่บ้าน มีโรคประจำตัวเป็น โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง โดยระหว่างวันที่ 22 มีนาคมถึงวันที่ 2 เมษายน มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน และเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลชุมพร หลังจากนั้นวันที่ 12 เมษายน มีอาการไข้ ไอ เหนื่อย หอบ จนต้องใส่ท่อช่วยหายใจ จากผลเอ็กซเรย์ พบว่า มีอาการปอดอักเสบรุนแรง โดยในวันที่ 15 เมษายน มีอาการแย่ลง และเสียชีวิตในวันที่ 16 เมษายน
ซึ่งประวัติความเสี่ยงของผู้ติดเชื้อเพิ่มทั้ง 28 คน พบมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน 16 คน ไม่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันทั้งสิ้น 5 คน ประกอบด้วย เดินทางไปยังสถานที่ชุมชน 1 คน และประกอบอาชีพเสี่ยง 4 คน และอยู่ระหว่างสอบสวนโรคอีก 7 คน

ศบค. แถลง ไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 28 ราย สะสม 2,700 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย

ศบค. แถลง ไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 28 ราย สะสม 2,700 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย

ซึ่งจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งสองพัน 700 ควรกระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศประกอบด้วย กรุงเทพฯ 1371 คน ภูเก็ต 192 คน นนทบุรี 48 คน สมุทรปราการ 108 คน ยะลา 99 คนปัตตานี 87 คน ชลบุรี 81 คน สงขลา 56 คนเชียงใหม่ 40 คน ปทุมธานี 33 คน และอยู่ระหว่างสอบสวนโลก 68 คน
ถึงจังหวัดที่ไม่มีการรายงานผู้ป่วยใน 14 วันระหว่างวันที่ 3 ถึง 16 เมษายนจำนวน 27 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงราย เพชรบุรีเพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง  กาญจนบุรี ร้อยเอ็ด ราชบุรี ลพบุรี ลำพูน ศรีสะเกษสมุทรสงคราม สระบุรี สุโขทัย หนองบัวลำภูอำนาจเจริญ อุดรธานี อุตรดิตถ์ อุทัยธานี กาฬสินธุ์และหนองคาย

ศบค. แถลง ไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 28 ราย สะสม 2,700 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย

สถานการณ์โลกมียอดจำนวนผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 2,182,197 คน แบ่งเป็นอาการหนัก 56,588 คน เพิ่มขึ้น 5,446 คน หายแล้ว 546,951 คน เพิ่มขึ้น 36,954 คน เสียชีวิต 145,521 คน เพิ่มขึ้นภายในวันเดียว 10,950 คน โดยอันดับ 1 อยู่ที่สหรัฐอเมริกา ติดเชื้อ 677,570 คน เพิ่มขึ้น 33,481 คน และเสียชีวิต 34,617 คน ส่วนสถานการณ์การติดเชื้อในประเทศญี่ปุ่นมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มภายในวันเดียว 605 คน ซึ่งน่าเป็นห่วงส่วน WHO ระบุว่าต้องมี 6 ข้อดังต่อไปนี้ หากจะต้องยกเลิกการล็อคดาวประเทศ ประกอบไปด้วย 1. สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรคภายในประเทศ 2. ระบบสุขภาพต้องสามารถตรวจหา ผู้มีอาการของโรคตรวจหาเชื้อแยกตัวและทำการรักษาพร้อมทั้งสอบสวนโรค  3. มีความเสี่ยงในระดับน้อยที่สุดในสถานที่เสี่ยงมากที่สุดอย่างเช่นบ้านพักคนชรา4. โรงเรียนสำนักงานและสถานที่สาธารณะต่างๆต้องมี มาตรการป้องกันเชื้อโรคที่มีประสิทธิภาพ 5. สามารถจัดการความเสี่ยงของโรคจากผู้ที่เดินทางเข้าประเทศได้  และสุดท้าย 6. คนในชุมชนต้องมีความรู้มีส่วนร่วมและได้รับการสนับสนุนให้มีชีวิตการเป็นอยู่ ภายใต้สังคมที่เปลี่ยนแปลงไปหลังการเกิดโรค
นอกจากนั้นยังยอมรับว่าในที่ประชุม ศบค. มีการหารือกันว่าภายในสัปดาห์หน้า จะมีการประชุมหารือเรื่องการผ่อนปรน ทั้งร้านตัดผมและห้างสรรพสินค้า โดยอาจจะออกมาตรการที่ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติ อย่างร้านตัดผม อ่าจให้บริการใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง เว้นระยะห่างในการจัดที่นั่งหรือเตียงนอนสระผม งดเว้นการบริการต้องใช้อุปกรณ์ร่วมกันและไม่สามารถทำความสะอาดได้ ส่วนด้านของห้างสรรพสินค้า อาจจะมีการจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการ ซึ่งอาจจะเริ่มทยอยเปิดส่วนต่างๆ พร้อมกับเน้นย้ำว่าข้อสรุปทั้งหมดอาจจะชัดเจนขึ้นในสัปดาห์หน้า

logoline