นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมว่า พนักงานและเจ้าหน้าที่ รฟท. ถือเป็นผู้เสียสละและอุทิศตนให้บริการประชาชนในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งปัจจุบันมีพนักงานด้านปฏิบัติการที่ยังให้บริการกับผู้โดยสาร จำนวน 2,500 คน จึงมอบนโยบายให้ผู้บริหาร รฟท. ดูแลพนักงานและเจ้าหน้าที่ทุกคนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะพนักงานช่างซ่อม สังกัดฝ่ายซ่อมส่วนล่าง รถดีเซลรางซึ่งป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้ด้วยความมั่นใจ เช่น การพ่นยาฆ่าเชื้อในสถานที่ทำงาน รวมทั้งตู้โดยสาร ให้ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าพื้นที่ รวมทั้งจัดหาอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ เช่นแจกหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮออล์ให้กับพนักงาน
"สิ่งที่ผมอยากทำคือ การหยุดให้บริการรถไฟทุกขบวน แต่ไม่สามารถทำได้เพราะจะส่งผลกระทบกับผู้ใช้บริการที่มีรายได้น้อย และยังมีความต้องการใช้บริการจำนวนมากถึง 1,500 - 2,000 คนต่อวัน แม้จะลดลงจากเฉลี่ยวันละ 9,000 คนก็ตาม ดังนั้นท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเช่นนี้ อาจทำให้พนักงานหลายคนรู้สึกเครียดและวิตกกังวลไปตาม ๆ กัน แต่ต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับมาตรการของรัฐบาล เพราะสิ่งนี้คือ หน้าที่ที่ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมต้องถือปฏิบัติในการให้บริการแก่ประชาชน"
ทั้งนี้ พนักงานของ รฟท. มีความพร้อมในการให้บริการการเดินทางของประชาชนอย่างเต็มที่แม้จะอยู่ในสถานการณ์ COVID-19 โดยการสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนพนักงานมาให้บริการ และให้จัดอุปกรณ์การป้องกันความเสี่ยงการติดเชื้อ รวมทั้งใช้นโยบายการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของพนักงานลงด้วย ถึงแม้การเดินขบวนรถไฟจะน้อยลง แต่พนักงานทุกคนยังให้บริการทุกสถานี หากมีประชาชนมาติดต่อขอใช้บริการที่สถานี เช่น จองตั๋ว คืนตั๋ว รฟท. ยังคงให้บริการทุกวันเหมือนเดิม
"รฟท. พร้อมให้บริการตลอดเวลา หากสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ ขณะนี้ รฟท. ใช้วิกฤติจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรคฯ เป็นโอกาสทองจากการหยุดเดินขบวนรถ เพื่อทำการซ่อมแซม และปรับปรุงขบวนรถที่ชำรุดให้สามารถกลับมาให้บริการประชาชนได้สมบูรณ์อีกครั้ง"
ในส่วนของประชาชนผู้ใช้บริการ รฟท. ดำเนินการด้านการคัดกรอง COVID-19 ตามมาตรการด้านการขนส่งตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม 7 ขั้นตอน คือ 1) คัดกรองประชาชน ผู้ปฏิบัติงาน ผู้โดยสาร ก่อนเข้าอาคารที่พักผู้โดยสาร 2) คัดกรองผู้โดยสารก่อนเข้าไปในยานพาหนะ 3) คัดกรองผู้โดยสาร ผู้ปฏิบัติงาน ก่อนออกจากอาคารที่พักผู้โดยสาร 4) เมื่อพบผู้มีอาการป่วย ดำเนินการตามระเบียบที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด 5) เว้นระยะห่างในจุดจำหน่ายตั๋ว จัดที่นั่งบนยานพาหนะ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกาหนด 6) แนะนำผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัย และแว่นตาตลอดการเดินทาง และ 7) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานผลให้กระทรวงคมนาคมทราบทุกวัน