อ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำใช้การได้น้อยกว่าร้อยละ30 ของความจุอ่าง มีจำนวน 21 แห่ง ได้แก่
เขื่อนภูมิพล จ.ตากเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์, เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จ.เชียงใหม่, เขื่อนแม่มอก จ.ลำปาง,เขื่อนห้วยหลวงจ.อุดรธานี, เขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ, เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น, เขื่อนลำตะคอง, เขื่อนลำพระเพลิง,,เขื่อนมูลบน เขื่อนลำแชะ จ.นครราชสีมา, เขื่อนลำนางรองจ.บุรีรัมย์, เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี, เขื่อนทับเสลาจ.อุทัยธานี, เขื่อนกระเสียวจ.สุพรรณบุรี, เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก, เขื่อนคลองสียัดจ.ฉะเชิงเทรา,เขื่อนบางพระ จ.ชลบุรี, เขื่อนหนองปลาไหลและเขื่อนประแสร์ จ.ระยอง
สำหรับแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2563ได้วางแผนเพาะปลูกข้าวนาปรังทั้งประเทศ 2.31 ล้านไร่ ปัจจุบัน(ข้อมูล ณ วันที่ 8เม.ย. 63)มีการเพาะทำนาปรังไปแล้ว 4.20 ล้านไร่ เกินแผนฯไปแล้วถึงร้อยละ 82มีการเก็บเกี่ยวแล้ว 2.28 ล้านไร่เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยาไม่มีแผนการเพาะปลูกข้าวนาปรัง เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุน มีไม่เพียงพอต่อการสนับสนุนด้านการเกษตร แต่จากการสำรวจพบว่ามีการทำนาปรังไปแล้วประมาณ1.98 ล้านไร่ เก็บเกี่ยวแล้ว 1.68 ล้านไร่ส่วนใหญ่ใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติในพื้นที่ของตนเองในการเพาะปลูก
กรมชลประทาน ได้ให้โครงการชลประทานทุกพื้นที่บริหารจัดการน้ำในแต่ละพื้นที่ให้เป็นไปตามแผนการจัดสรรน้ำที่วางไว้พร้อมทั้งจัดเตรียมเครื่องจักร-เครื่องมือ ให้สามารถพร้อมใช้งานได้อยู่เสมอกำจัดวัชพืชไม่ให้กีดขวางทางน้ำ รวมถึงตรวจสอบระบบและอาคารชลประทานให้สามารถรองรับสถานการณ์น้ำได้อย่างเต็มศักยภาพ
นอกจากนี้ยังบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานในท้องที่ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำและการดำเนินงานตามสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นให้ประชาชนรับทราบและตระหนักถึงคุณค่าของน้ำอย่างต่อเนื่อง