ด้านนายโสภณ ทองดีอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่าตนได้รับรายงานจากหน่วยงานในพื้นที่ว่า อาสาสมัครพิทักษ์ทะเลได้แจ้งต่อสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่6พบเรือยอร์ช ชื่อ โคติงก้าลักลอบจอดเรือโดยทิ้งสมอในเขตหวงห้ามบริเวณพื้นที่แนวปะการัง เกาะราชาใหญ่จังหวัดภูเก็ตพร้อมหลักฐานภาพถ่าย ขั้นต้นได้ให้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษผู้กระทำผิดต่อพนักงานสอบสวนสภ.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ไว้ก่อน พร้อมกันนี้ตนจึงรีบได้รายงานให้ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อทราบเบื้องต้น และได้ลงพื้นที่วานนี้(8 มีนาคม 2563) โดยได้นำเรือทรัพยากร ฯ308ออกปฏิบัติงานตรวจติดตามเรือของผู้กระทำผิดดังกล่าว จนสามารถตรวจพบเรือยอร์ชหรูชื่อ โคติงก้าในบริเวณอ่าวโต๊ะขุน ต. เทพกษัตรี อ. ถลาง จ. ภูเก็ต โดยมีผู้ควบคุมเรือชื่อMr.Jean,Eugne,Albert,Marie GIRARDอายุ64ปี สัญชาติ ฝรั่งเศส จึงได้นำตัวส่ง สภ.ฉลอง ซึ่งผู้กระทำผิดได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาพนักงานสอบสวนจึงได้ควบคุมตัว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้การกระทำผิดดังกล่าวการฝ่าฝืนคำสั่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่445/2559ลงวันที่19พฤษภาคม2559ออกตามความใน มาตรา17แห่ง พ.ร.บ.ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งพ.ศ.2558ซึ่งห้ามทิ้งสมอบนแนวปะการังในพื้นที่หวงห้ามตามประกาศ มีระวางโทษจำคุกไม่เกิน1ปี หรือปรับไม่เกิน100,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและมีความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562มาตรา12กำหนดห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองมีระวางโทษจำคุกไม่เกิน10ปี หรือปรับไม่เกิน1,000,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับสุดท้าย ตนขอชื่นชมอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลที่ช่วยเฝ้าระวังการกระทำที่ส่งกระทบต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งซึ่งปัจจุบันมีอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลกว่า 20,000 คน ใน 24 จังหวัดชายฝั่งทะเลที่จะคอยเป็นหูเป็นตาและเฝ้าระวังการกระทำความผิดและรายงานให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเพื่อทราบและดำเนินการได้อย่างทันท่วงทีนายโสภณ ทองดีอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวในที่สุด