แต่เนื่องจากการกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าว เป็นการบังคับให้ซองยาเส้นพิมพ์สำเร็จจากถุงพลาสติกอย่างเดียวเท่านั้น เป็นการปิดกั้นและทำลายอาชีพพับฉลากซองยาเส้น ที่เน้นใช้แรงงานคนมากกว่า ทำให้คนเหล่านี้ต้องตกงานลงทันที โดยไม่มีมาตรการรองรับ ซึ่งมีแรงงานที่อยู่ในอาชีพนี้หลายพันคน อีกทั้งหลักเกณฑ์ดังกล่าว จึงเป็นการย้อนแย้งต่อนโยบายลดเลิกการใช้ถุงพลาสติกของรัฐบาลโดยตรงอีกด้วย
ทั้งนี้มาตรการสำคัญที่ใช้ในการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบประเภทยาเส้นหรือยาเส้นปรุงเน้นการจัดให้มีฉลากรูปภาพ ขนาดตัวอักษรของชื่อตรา ชื่อผู้ผลิต ผู้นำเข้า ฉลากรูปภาพ ข้อความ รวมถึงคำเตือนถึงพิษภัย ของยาเส้นหรือยาเส้นปรุง และช่องทางการติดต่อเพื่อการเลิกยาสูบนั้นเป็นสิ่งที่ชาวบ้านไม่ได้คัดค้าน หากแต่การมาบังคับให้ซองยาเส้นผลิตจากถุงพลาสติกพิมพ์สำเร็จจากโรงงานอย่างเดียวเท่านั้น เป็นสิ่งที่ชาวบ้านรับไม่ได้
ที่สำคัญการออกประกาศกฎหมายดังกล่าว ไม่ได้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้องแต่อย่างใด รวมทั้งไม่ได้มีการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายอย่างรอบด้านและเป็นระบบ ไม่มีการรับฟังความคิดเห็นเพื่อนํามาประกอบการพิจารณาในกระบวนการตรากฎหมายทุกขั้นตอนตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 ม.77 บัญญัติไว้แต่อย่างใด
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และตัวแทนชาวบ้านที่มีอาชีพพับซองยาเส้น จะเดินทางไปร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ใช้อำนาจในการเสนอแนะต่อหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีการปรับปรุงประกาศกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าว ซึ่งก่อให้เกิดความเดือดร้อนและไม่เป็นธรรมแก่ชาวบ้านเกินสมควรแก่เหตุต่อไป โดยจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันพฤหัสที่ 16 ม.ค.63 เวลา 12.00 น. ณ สนง.ผู้ตรวจการแผ่นดิน ชั้น 5 ศูนย์ราชการฯ อาคาร B ถ.แจ้งวัฒนะ หลักสี่ กทม. นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด