จับแล้ว! หนุ่มเสื้อเเดงมือแทงคนจีนรับทำวีซ่า

กรณีเหตุ นายฟาง ยางเซิน อายุ 54ปี สัญชาติจีนรับจ้างต่อวีซ่าถูกแทงด้วยอาวุธมีดหลายแห่งตามร่างกาย นั่งเสียชีวิตบนเก้าอี้ ภายในห้องพักเลขที่1-4 ภายในพรทิพย์อพาร์ทเมนท์ เลขที่245/1 ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 5 แยก6 เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ โดยที่ห้องน้ำพบมีดพกตกอยู่ในอ่างพร้อมคราบเลือด พร้อมทั้งมีพยานเห็นว่ามีผู้ชายตัวสูงรีบวิ่งออกไป ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบวงจรปิด โดยเหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ท้องที่สน.สุทธิสารตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 24พ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจฝ่ายสืบสวนสน.สุทธิสาร ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อล่าตัวผู้ก่อเหตุ โดยแกะจากคราบหยดเลือดที่อยู่ในจุดเกิดเหตุตามรอยไปเรื่อย ๆ พร้อมตรวจสอบวงจรปิด ในที่สุดจึงทราบตัวคนร้าย เป็นชายผิวขาว รูปร่างสูง สวมหมวกแก็ปสีดำ ใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีแดง ใส่กางเกงยีนส์ นั่งโดยสารรถแท็กซี่มาจอด จากนั้นเดินเข้าไปในห้องออฟฟิศของผู้ตายตั้งแต่เวลา 17.00 น. แล้วออกมา เวลา 20.00 น. โดยมีท่าทีเร่งรีบเดินทางไปยังโรงแรมที่อยู่ไม่ไกลจุดเกิดเหตุ ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดอีกตัวสามารถจับภาพพบว่าชายรายนี้มีอาการบาดเจ็บ บาดแผลฉกรรจ์ที่แขนทั้ง 2 ข้าง จึงทำให้เชื่อว่ามีการต่อสู้กับผู้ตาย

ต่อมาไม่นานเจ้าตัวก็รีบเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระราม 9 ทางตำรวจจึงนำกำลังไปตรวจสอบพบว่า ชายรายนี้เป็นชาวจีน ชื่อนายเจอ คั่นอายุ32ปี ทางแพทย์ได้ทำการผ่าตัดและให้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 3 วัน ทางตำรวจจึงทำการจับกุม และจัดกำลังเฝ้าเวรยามตลอด 24 ชั่วโมง

จากการสอบสวนเบื้องต้นนายเจอ คั่นยังไม่ให้การใด ๆ ถึงเหตุที่เกิดขึ้นอ้างว่าตัวเองพึ่งจะได้รับการผ่าตัดมาและถูกฉีดยาชาค่อนข้างเยอะ จนทำให้จำเหตุการณ์ไม่ค่อยได้ ขอให้ผ่านช่วงพักฟื้นไปสักพักก่อนถึงจะให้การได้ ทางตำรวจจึงแจ้งว่าจะส่งกำลังมาเฝ้าตลอด24ชั่วโมง ทางผู้ต้องหาได้แจ้งว่ารับรู้เรื่องนี้แล้ว

สอบสวนนาง เจิน ซูเหลียน อายุ 53 ปี ภรรยาผู้ตาย ทราบว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นเพื่อนชาวจีนที่รู้จักผู้ตายมานานแล้วเท่านั้น อย่างไรก็ตามทางตำรวจไม่สามารถทำการสอบปากคำผู้ก่อเหตุได้ต้องรอให้นอนพักรักษาตัวก่อน
เบื้องต้นทางตำรวจพบว่าผู้ต้องหาก่อเหตุทะเลาะกับผู้ตายมีปากเสียงทะเลาะวิวาทใช้อาวุธมีดแทงกันได้รับบาดเจ็บที่แขน หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาหลบหนีไปที่พักก่อนไปรักษาตัวที่รพ.เพื่อรักษาตัว ทั้งนี้ในจุดเกิดเหตุพบว่าทรัพย์สินผู้ตายอยู่ในความครอบครองของผู้ต้องหาด้วย ตอนนี้ทางตำรวจะแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น และหากแพทย์อนุญาตให้พาตัวออกมาได้ จะคุมตัวไปรักษาต่อที่รพ.ตำรวจตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป