ให้พิทักษ์ทรัพย์ ของนายวิเชียร หรือนายชยุต ลีนุตพงษ์ จําเลย เด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2489 แล้วดังนั้น นับแต่วันที่ศาลมีคําสั่ง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียว มีอํานาจจัดการเกี่ยวกับกิจการ และทรัพย์สินของลูกหนี้ ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 และบุคคล ผู้เป็นหนี้ลูกหนี้หรือมีทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่ในครอบครอง มีหน้าที่ต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับหนี้หรือทรัพย์สิน ของลูกหนี้ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบ ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้ทราบคําสั่งของเจ้าพนักงาน พิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 24/1 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 ซึ่งผู้ใดมีหน้าที่ตาม มาตรา 24/1 แล้วไม่ปฏิบัติตาม มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท ตามมาตรา 173/1 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483
อนึ่ง เจ้าหนี้ซึ่งจะขอรับชําระหนี้ในคดีนี้ จะเป็นโจทก์หรือไม่ก็ตาม ต้องยื่นคําขอรับชําระหนี้ต่อ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ฝ่ายคําคู่ความ สํานักงานเลขานุการกรม กรมบังคับคดี หรือ สํานักงานบังคับคดี ซึ่งจําเลยมีภูมิลําเนาอยู่ ภายในกําหนดเวลา 2 เดือน นับแต่วันที่โฆษณาคําสั่งนี้ และเจ้าพนักงาน พิทักษ์ทรัพย์ได้กําหนดวันลงโฆษณาในราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ 21 ตุลาคม 2562 ซึ่งตรวจได้จาก เว็บไซต์ของกลุ่มงานราชกิจจานุเบกษาที่ www.ratchakitcha.soc.go.th ประกาศ ณ วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2562 เบญจา สุภานนท์เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ทั้งนี้ นายวิเชียร ลีนุตพงษ์ เคยเป็นผู้บริหารกลุ่ม ซีตรอง ภายใต้ชื่อ ดีเอดี ยนตรกิจ พร้อมกับการสร้างเครือข่ายแบรนด์ในมือรวมแล้วถึง 7 แบรนด์ ได้แก่ ซีตรอง, สโกด้า, เอ็มทีเอ็ม, สปายเกอร์, โพลาร์ซัน, เซียท และเดวา