นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงาน "THAILAND SPORT EXPO 2019 : Empower Your Sport DNA" ว่า การจะยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมกีฬาทั้งระบบไม่สามารถที่จะทำได้เพียงหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง เพราะทุกส่วนเป็นจิ๊กซอที่ต้องส่งเสริมและเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน ธุรกิจกีฬาทั้งในประเทศและต่างประเทศมีมูลค่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในหลายๆประเทศอย่าง อังกฤษ ไต้หวัน ญี่ปุ่น มีโมเดลการพัฒนาวงการกีฬาที่เข้มแข็งสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างมหาศาล ที่ผ่านมาเรามีนักกีฬาที่เป็นขวัญใจคนไทยทั้งประเทศ โด่งดังเป็นที่ยอมรับในระดับเอเชียและระดับโลก สินค้าและบริการด้านกีฬาของเราก็เป็นที่ชื่นชอบในอาเซียน จึงมีเป้าหมายที่อยากจะเห็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดทั้งในเรื่องของวงการกีฬาและอุตสาหกรรมกีฬา ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าสินค้ากีฬาแบรนด์ดังหลายๆแบรนด์นั้นมีฐานการผลิตที่โรงงานในประเทศไทย และเป็นเรื่องไม่ยากที่พวกเราทุกคนจะช่วยกันผลักดัน ยกระดับอุตสาหกรรมกีฬาของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก" นายเทวัญกล่าว
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ส.อ.ท. ร่วมจัดงานนี้เป็นปีแรก เรามุ่งเน้นแสดงศักยภาพของสินค้าและผู้ประกอบการไทยที่มีบทบาทในระดับประเทศและระดับโลก ทั้งในรูปแบบของการส่งเสริมกิจกรรมกีฬา นวัตกรรม และอุตสาหกรรมกีฬา ให้ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการไทย โดยภายในงานมีการจัดกิจกรรม Business Matching การโชว์สินค้านวัตกรรมด้านกีฬา สินค้าไฮไลท์แบรนด์ดังจากต่างประเทศที่ผลิตในประเทศไทย ทำให้เราได้เห็นถึงศักยภาพของคนไทยเจ้าของโรงงานผู้ผลิตสินค้ากีฬาชั้นนำในระดับโลก
ประธาน ส.อ.ท. ยังกล่าวอีกว่า งาน THAILAND SPORT EXPO 2019 เป็นอีกส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน SPORT ECOSYSTEM ของประเทศไทยที่เราวางแผนไว้ ซึ่งตอนนี้มีการจัดตั้งคณะทำงานความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อขับเคลื่อนส่วนงานต่างๆโดยมีเป้าหมายเดียวกันคือ ยกระดับอุตสาหกรรมกีฬาให้เข้มแข็งทั้งในระดับประเทศและระดับสากล เพื่อประโยชน์ต่อคนไทยทั้งประเทศ สร้างสุขภาพที่ดีขึ้น สร้างสังคมแห่งความสุข และสร้างรายได้ให้กับประเทศในมูลค่ากว่าแสนล้านบาทต่อปี ช่วยยกระดับการส่งเสริม SPORT ECOSYSTEM ให้เป็นวาระแห่งชาติ ถือเป็นเรื่องของคนไทยทุกคนที่จะผลักดันร่วมกัน" นายสุพันธุ์กล่าว
ดร.สรายุทธ มหวลีรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "งาน THAILAND SPORT EXPO 2019 ในปีนี้ จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 10 - 13 ตุลาคม 2562 ณ ชาเลนเจอร์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้คอนเซ็ปต์ EMPOWER YOUR SPORT DNA : ปลุกพลังกีฬาในตัวคุณ เพื่อปลุกพลังกีฬาที่อยู่ในตัวตนของทุกคน ปลุกกระแสให้ทุกคนหันมาดูแลสุขภาพ ใส่ใจในการออกกำลังกาย โดยการจัดงานในปีนี้ เรามุ่งเน้นด้านการแสดงศักยภาพของนวัตกรรมต่างๆในธุรกิจกีฬา และการสร้างแรงจูงใจให้คนหันมาเล่นกีฬามากขึ้น โดยเน้น Theme งานใน 4 ด้าน คือ การส่งเสริมการเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพ, ส่งเสริมการเล่นกีฬาเพื่ออาชีพ, ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา, ส่งเสริมนวัตกรรมและธุรกิจด้านกีฬา"
ดร.สรายุทธ มหวลีรัตน์ ยังเผยอีกว่า ภายในงานยังคงมีสินค้าและอุปกรณ์กีฬาในราคาพิเศษสุด จำหน่ายเช่นเดิม จากผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่าย อาทิ FBT, Super sports, ICC และอีกกว่า 500 แบรนด์ชั้นนำ มาร่วมลดราคาแบบล้างสต็อก 30-80% รวมถึงกิจกรรมบันเทิงบนเวทีที่หลากหลาย ครบครันตลอด 4 วัน ทั้งนี้สยามสปอร์ตฯ ยังต้องการยกระดับงานแสดงสินค้าและบริการด้านกีฬาให้เป็นแบบ International ต่อไปในอนาคต และตั้งเป้าให้เป็นงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอีกด้วย"
ด้าน นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า "สสว. เห็นถึงความสำคัญของธุรกิจกีฬาที่มีความสำคัญต่อมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ จึงได้ริเริ่มพัฒนา และส่งเสริมการรวมกลุ่มของผู้ประกอบการในรูปแบบคลัสเตอร์หรือเครือข่าย ผ่านกิจกรรมพัฒนาเครือข่าย Sport Economy และเครือข่ายมวยไทย ร่วมกับทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เน้นการวางรากฐานการทำธุรกิจให้เข้มแข็ง และส่งเสริมการนำเทคโนโลยีนวัตกรรมมาเพิ่มมูลค่าให้สินค้า เพื่อให้เกิดความแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง โดยเฉพาะการรวมกลุ่มเชื่อมโยงของสมาชิกที่จะสามารถแชร์องค์ความรู้ การเชื่อมโยงธุรกิจ และการเชื่อมโยงกันในรูปแบบพี่ช่วยน้อง รายใหญ่ช่วยรายเล็กให้เติบโตไปด้วยกันได้"
นายสุวรรณชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า "ในปีที่ผ่านมา ได้พัฒนาผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมมวยไทยและธุรกิจกีฬา จำนวน 878 ราย จาก 6 คลัสเตอร์ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นกว่า 180 ล้านบาท ทั้งนี้ กระบวนการพัฒนาดังกล่าว จะเน้นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาเป็นแนวทางหลัก สอดรับกับนโยบายการวางรากฐานระบบเศรษฐกิจสู่อนาคตในการสร้างผู้ประกอบการยุคใหม่ด้วย"