ทางคณะกรรมการพิจารณารางวัลของมูลนิธิรามอน แมกไซไซ ระบุว่า นางอังคณา ปกป้องและทวงถามถึงความยุติธรรมในสังคมไทยมาตลอด หลังการหายตัวไปอย่างเป็นปริศนาของสามี ทนายสมชาย นีละไพจิตร รวมถึงช่วยเหลือผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและเหยื่อความรุนแรงและความขัดแย้งทางภาคใต้ของไทย เธอเป็นคนธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการป้องกันและแก้ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ในสุนทรพจน์หลังการรับรางวัล เธอบอกว่า สำหรับเธอแล้ว เกียรติยศที่ได้รับในวันนี้ หาใช่สัญลักษณ์ของชัยชนะหรือการปิดฉากการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและเพื่อสิทธิของเธอและของผู้ที่อยู่รอดคนอื่น ๆ หากแต่มันหมายถึงการยอมรับเรื่องการเดินหน้าต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน ความยุติธรรม อิสรภาพ ประชาธิปไตย และหลักนิติธรรมสำหรับผู้ที่อยู่รอดจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และในภูมิภาคนี้ทั้งหมด
ในปีนี้ นอกจากเธอแล้ว ยังมีอีก 4 คนที่ได้รับรางวัลคือคิม จอง กิ ชาวเกาหลีใต้ที่ต่อสู้กับปัญหาการถูกกลั่นแกล้งและการฆ่าตัวตาย , ราวิช กุมาร และโก ฉ่วย วิน นักข่าวจากอินเดียและเมียนมาร์ ที่ต่อสู้ยืนหยัดเพื่อความจริง และ ไรมุนโด ปูจันเต คายับยับ ชาวฟิลิปปินส์ที่อุทิศตัวให้กับวงการดนตรีและการศึกษามานานกว่า 40 ปี
รางวัลนี้ได้รับชื่อตามชื่อของประธานาธิบดีรามอน แมกไซไซ ของฟิลิปปินส์ ที่ถึงแก่อสัญกรรมจากอุบัติเหตุทางเครื่องบินเมื่อปี 2500 และก็เริ่มมีการแจกรางวัลในปีนั้น โดยมีวัตถุประสงค์ในการมอบรางวัลให้กับ " จิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ในการรับใช้ชาวเอเชียแบบไม่เห็นแก่ตัว " ซึ่งก็เคยมีคนไทยเคยได้รางวัลนี้มาแล้ว 10 ครั้ง