svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

รฟท.จัดโครงการพาน้องนั่งรถไฟ

การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดโครงการ พาน้องนั่งรถไฟ ครั้งที่ 16 นําเด็กและเยาวชนจากกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนเดินทางทัศนศึกษานอกสถานที่โดยรถไฟ เส้นทาง ธนบุรี-หลังสวน จังหวัดเพชรบุรี เพื่อเปิดโอกาสให้ได้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้เสริมสร้างประสบการณ์ทักษะชีวิต และปรับตัวในการอยู่ร่วมกับสังคมภายนอกได้อย่างมีความสุข

การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดโครงการ พาน้องนั่งรถไฟ ครั้งที่ 16 โดยได้รับเกียรติจาก นายศักดิ์ชัย ค้ำชู ผู้ตรวจราชการกรมพินิจฯ นายวีระพรรณ์ แสงรัตนาภรณ์ สารวัตรงานเดินรถแขวงธนบุรี และนายอภินันท์  มะโรหบุตร นายสถานีธนบุรี ร่วมมาส่งคณะเด็กและเยาวชนจากกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เดินทางไปทัศนศึกษาทางรถไฟ ขบวนรถธรรมดา ที่ 255 (ธนบุรี-หลังสวน) ที่จังหวัดเพชรบุรี  เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ และทักษะชีวิต ให้สามารถเรียนรู้ปรับตัวการอยู่ร่วมกับสังคมภายนอกได้


ทั้งนี้ขบวนรถไฟได้นำคณะเด็กและเยาวชนจากกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ออกเดินทางจากสถานีธนบุรี ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2562 เวลา 07.00 น. ถึงสถานีเพชรบุรี 10.30 น. จากนั้นได้ร่วมกิจกรรมผจญภัยและสันทนาการ ต่อด้วยเดินทางไปทัศนศึกษาต่อบริเวณรอบเขื่อนแก่งกระจาน  ก่อนเดินทางกลับถึงที่หมายอย่างปลอดภัยเวลา 17.00 น. ของวันที่ 27 สิงหาคม 2562 

"การจัดโครงการ พาน้องนั่งรถไฟ ครั้งที่ 16 สร้างความประทับใจ และรอยยิ้มแก่เด็กและเยาวชนจากกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนที่ได้เข้าร่วม เป็นอย่างมาก โดยทุกคนได้รับประโยชน์ สามารถนำทักษะความรู้จากการทัศนศึกษามาใช้ในการดำเนินชีวิต อีกทั้งยังนำประสบการณ์มาช่วยถ่ายทอดให้เพื่อนๆ เยาวชนในศูนย์ฝึกและอบรมฯ คนอื่นๆ ได้รับรู้ อันจะประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตในภายภาคหน้าด้วย"


ที่ผ่านมา การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการจัดโครงการ "พาน้องนั่งรถไฟ" มาแล้วเป็นเวลา 15 ครั้ง โดยให้การสนับสนุนกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน  นําเด็กและเยาวชนจากศูนย์ฝึกและอบรม เด็กและเยาวชนในเขตกรุงเทพและปริมณฑล 

ซึ่งคัดเลือกเด็กและเยาวชนที่มีความประพฤติดี และอยู่ในระหว่างการเตรียมความพร้อม ไปทัศนศึกษานอกสถานที่โดยรถไฟ เพื่อให้เด็กและเยาวชน ได้มีโอกาสออกไปเรียนรู้ทักษะ เสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตจากโลกภายนอก 

รวมถึงยังช่วยลดความตึงเครียด ลดความวิตกกังวล ตลอดจช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ความเชื่อมั่น และการเห็นคุณค่าในตัวเองให้แก่เด็กและเยาวชน รวมถึงการเสริมสร้างภาพลักษณ์ คุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่เด็กและเยาวชนในความดูแล ของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนต่อไป