นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งที่พรรคฝ่ายค้านพูดถึงพรรคประชาชนปฏิรูป ของนายไพบูลย์ นิติตะวัน เพราะกังวลว่าจะมีการใช้เคสของนายไพบูลย์ นำร่องไปก่อน ไม่ว่าผลจะออกทางไหน บางพรรคจะได้ประโยชน์ ถ้าทำได้ จะทำให้พรรคเล็กๆ นำไปทำตาม แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็ถือว่านายไพบูลย์ และพรรคสิ้นสภาพไป นำมาสู่การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ และก็อาจจะใช้กรณีแบบเดียวกันนี้กับพรรคการเมืองอื่น หากต้องถูกตัดสินให้ยุบพรรคด้วย จะกลายเป็น "ไพบูลย์โมเดล"
ถ้าหากสิ่งที่วิเคราะห์ไปเป็นจริงขึ้นมาจะเกิดความน่ากลัวมาก เพราะจะถือเป็นการตัดต่อพันธุกรรมให้บางพรรค ซึ่งผิดหลักการประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก
"เป็นการบิดเบือนเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ รวมทั้งสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพราะก่อนหน้า กกต.ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการคำนวณที่ให้คุณต่อบางพรรคการเมือง แต่สิ่งที่น่ากังวลหากเป็นไปตามคาดการณ์ จะถือเป็นการทำลายพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งจะยิ่งสร้างแรงกระเพื่อมให้สังคมที่รุนแรงมาก เป็นการทำลายระบบนิติรัฐ นิติธรรม ครั้งใหญ่ที่สุด" นายสุทินกล่าว
เมื่อถามว่า หากเป็นตามที่วิเคราะห์จะยิ่งเป็นการเพิ่มช่องว่างต่อจำนวน ส.ส.ฝ่ายค้าน และรัฐบาล ให้มากขึ้นไปอีกหรือไม่
นายสุทิน กล่าวว่า ถ้าทำสูตรนี้สำเร็จ คาดว่าจำนวน ส.ส. รัฐบาล กับฝ่ายค้าน จะห่างกันถึง 20 เสียง
เมื่อถามย้ำว่า หากเป็นแนวทางนี้ พรรคอนาคตใหม่ คงต้องเตรียมพรรคสำรองเอาไว้
นายสุทิน กล่าวว่า ก็คงไม่น่าจะทันอยู่ดี ไม่รู้ว่าวันนี้เขารู้หรือยังว่าอาจจะมีกรณีอย่างนี้ แต่ถึงอย่างไร ส.ส.บัญชีรายชื่อจะหายไปหมด ไม่มีเลย นอกจากนี้ถ้าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับเก่าๆ ส.ส.เขตจะย้ายไปสังกัดพรรคใหม่ได้ ต้องเป็นพรรคที่มีที่นั่งหรือ ส.ส.ในสภาอยู่แล้ว แต่ไม่แน่ใจว่า ในรัฐธรรมนูญใหม่ กฎหมายใหม่ ระบุตรงนี้ไว้หรือไม่
ด้าน เลขาธิการพรรคเพื่อไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ กล่าวว่า วันที่ 26 สิงหาคม จะนำเรื่องนี้เข้าสู่การหารือของคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคว่าเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ขณะเดียวกันก็จะต้องมีการตีความเรื่องกฎหมายทั้งการคำนวณคะแนน และการควบรวมพรรค เพราะขณะนี้มีการตีความข้อกฎหมายต่างกัน อย่างไรก็ตามหากพบว่าเรื่องนี้ขัดรัฐธรรมนูญก็จะมีการยื่นเอาผิดต่อไป