ปีนี้ ผบ.ตร.ไม่ได้เกษียณอายุหรือถูกย้าย ยังเป็น "บิ๊กแป๊ะ" พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา คนเดิม ทำให้โฟกัสย้ายมาอยู่ที่ตำแหน่ง "ผบ.ตร.น้อย" อย่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เจ้าของรหัส "น.1" ที่ถือว่าเป็นหัวใจของตำรวจเมืองกรุง เข้ามารับผิดชอบดูแลเมืองใหญ่ที่มีปัญหารอบด้าน โดยชื่อที่เป็นแคนดิเดตในช่วงโค้งสุดท้ายมี 5 ชื่อด้วยกัน 1. พลตำรวจโท สมชาย พัชรอินโต ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจ หรือ นรต.36 ของ ผบ.ตร. 2. พลตำรวจตรี ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นรต.รุ่น 38 ปัจจุบันรับผิดชอบงานด้านความมั่นคง สายงานเดียวกับ พลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. บางกระแสบอกว่า พลตำรวจตรี ภัคพงษ์ เป็นเต็ง 1 3. พลตำรวจโท รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 นรต.รุ่น 36 รุ่นเดียวกับ ผบ.ตร.เช่นกัน พลตำรวจโท รณศิลป์ หรือ "บิ๊กแหมว" เป็นนักสืบมือพระกาฬ ลงไปรับผิดชอบงานภาคใต้ และยังเคยเป็นอดีตมือทำงานนครบาล คุมศูนย์สืบสวน บช.น. จึงถือเป็นลูกหม้อมาก่อน และหากได้ดำรงแหน่ง ผบช.น. ก็ถือว่าเหมาะสม ไม่ค้านสายตา 4. พลตำรวจโท อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 นรต.รุ่น38 ที่มีกระแสว่าอาจเป็นเซอร์ไพรส์ในตำแหน่ง น1. แต่ก็มีข่าวอีกกระแสว่าอาจขยับไปคุมพื้นที่ภูธรภาค 2 5. พลตำรวจโทสมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นรต.รุ่น 40 นายตำรวจเนื้อหอม ครบเครื่องทั้งบู๊และบุ๋น ก่อนหน้านี้เคยเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ก่อนจะขึ้นเป็นผู้บัญชาการที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และสไลด์มารับแหน่งที่ ตม. แทน "บิ๊กโจ๊ก" พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล นับเป็นอีกคนหนึ่งที่มีลุ้น จากรายชื่อทั้ง 5 แคนดิเดต
ถ้าให้อ่านใจผู้มีอำนาจคัดเลือกอย่าง ผบ.ตร. ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเลือกเพื่อนรุ่นเดียวกัน เพราะเชื่อมือ เชื่อใจ และยังเป็นศักดิ์ศรีของรุ่น
ซึ่งหากเลือก นรต.36 อีก ก็เท่ากับว่าตำแหน่ง ผบช.น. มาจาก นรต.36 สามคนต่อเนื่องกัน
นับจาก พลตำรวจโท ชาญเทพ เสสะเวช ตามด้วย พลตำรวจโท สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ในปัจจุบัน แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ "ฟ้าจะเปลี่ยนสี" เลือกนายตำรวจรุ่นน้องฝีมือดีมาสานงานต่อได้เหมือนกัน
สำหรับตำแหน่งข้าราชการตำรวจระดับนายพลที่จะมีการแต่งตั้งใหม่รอบนี้ คือวาระประจำปี 2562 แบ่งเป็น รองผบ.ตร. 3 ตำแหน่ง ผู้ช่วยผบ.ตร. 6 ตำแหน่ง ผู้บัญชาการ 10 ตำแหน่ง และผู้บังคับการประมาณ 9 หรือ 10 ตำแหน่ง โดยจะมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนตามวงรอบอีกจำนวนมาก และทั้งหมดต้องจบภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ เนื่องจากนายกฯลงมากำกับดูแลเอง และกำชับเสมอว่าต้องไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง
สุดท้ายผลจะเป็นอย่างไร ต้องรอติดตาม