"การร่วมมือกับการบินไทยในครั้งนี้เพื่อเป็นการดึงดูดให้ผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทยและเป็นเวทีการค้าสำคัญที่นักธุรกิจ ผู้ซื้อ ผู้ขาย และผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับทั่วโลกได้เดินทางมาร่วมงาน เพื่อต่อยอดธุรกิจ ทั้งการสรรหาวัตถุดิบ การเจรจาการค้าและสร้างเครือข่ายพันธมิตร สามารถตัดสินใจเดินทางมาร่วมงานได้เร็วขึ้น"น.ส.บรรจงจิตต์กล่าว
ทั้งนี้ ในการจัดงานครั้งนี้ กรมฯคาดว่าจะมีนักธุรกิจ ผู้ผลิต และผู้ซื้อในวงการอัญมณีและเครื่องประดับกว่า 20,000รายจาก 130 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมงาน โดยผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้าชมงาน Bangkok Gems andJewelry Fair ครั้งที่ 64 ล่วงหน้าได้ที่ เว็บไซต์ www.bkkgems.comและสามารถเช็คเส้นทางบินราคาพิเศษทั้งหมดได้ที่ http://bit.ly/2TCgVtP
น.ส.บรรจงจิตต์กล่าวว่า กรมฯยังได้ติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะผลกระทบที่จะมีต่ออุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ซึ่งล่าสุดสหรัฐฯได้ประกาศขึ้นภาษีจีนเป็น 2 ช่วง เริ่ม 1 ก.ย. และ 15 ธ.ค.โดยกลุ่มเครื่องประดับถูกขึ้นภาษีในช่วงแรก ทำให้สินค้าที่สหรัฐฯนำเข้าจากจีนมีราคาสูงขึ้น ผู้นำเข้าสหรัฐฯ ได้หันไปนำเข้าสินค้าจากประเทศอื่นรวมทั้งไทย จึงเป็นโอกาสของไทยที่จะผลักดันการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในการเจาะตลาดสหรัฐฯผู้ประกอบการไทยควรเน้นเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม หรือ Niche Market และเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงและต้องปรับตัวด้วยการผลิตและออกแบบสินค้าให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพราะปัจจุบันลูกค้ามีความต้องการความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สวมใส่แล้วต้องสะท้อนความเป็นตัวตนและแตกต่างจากคนอื่นและต้องการเครื่องประดับที่มีฟังก์ชันอื่นเพิ่มเติม เช่น วัดชีพจร นับก้าวหรือเป็นเครื่องประดับชิ้นเดียว แต่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบใส่ได้ในหลายโอกาส