ที่จังหวัดพัทลุง นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย ร่วมกับ ชมรมสื่อมวลชนจังหวัดพัทลุงและคณะผู้สื่อข่าวในจังหวัดพัทลุงเข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับนายกู้เกียรติ วงค์กระพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง หลังถูกคุมคามสิทธิเสรีภาพในการปฏิบัติงานจนทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย ที่ห้องทำงาน บนศาลกลางจังหวัดพัทลุง โดยมีพล.ต.ต.ธรัฐชา ถมปัทม ผบ.ภจว พัทลุง มีตัวแทนจากสำนักงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ทหารกอ.รมน และ ป้องกันจังหวัด ร่วมในการรับหนังสือร้องเรียนดังกล่าวด้วย
นายไชยยงค์ กล่าวว่า จากกรณีที่นางอิสณา อุดมศิลป์ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 และนางลัดดา มณีรัตน์ ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอส และเนชั่นทีวี พร้อมด้วยทีมข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี ทีมข่าวสถานีโทรทัศน์อัมรินทร์ทีวี เดินทางไปทำข่าวการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ที่มีส่วนได้เสียกับการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน(เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) ของบริษัท สิงห์ศิลาทอง จำกัดโดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพัทลุง ในเวลา 13.30 น.เมื่อวันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม2562 ที่ผ่านมา ณ มัสยิดอัสซอลีฮีน หมู่ที่ 4 ตำบลคลองใหญ่ อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง
และได้ถูกคุมคามของบุคคลที่อ้างว่าเป็นตัวแทน บริษัท ไม่ให้เข้าทำหน้าที่รายงานข่าวกรณีการเปิดเวทีดังกล่าวโดยเหตุการณ์ว่าทีมข่าวได้เข้าไปถึงพื้นที่ก่อนเวลา 30 นาทีจึงขับรถเลยจากจุดที่เปิดเวทีไปยังบริเวณน้ำตกลาดเตย ซึ่งห่างจากจุดเวทีประมาณ 3-4 กิโลเมตร เพื่อไปเก็บภาพประกอบข่าวของแหล่งต้นน้ำในพื้นที่ ขณะที่ทีมสื่อกำลังเก็บภาพอยู่นั้น ได้มีรถยนต์เก๋งสีดำ ขับตามไปประกบห่างจากจุดจอดรถของทีมสื่อประมาณ 30 เมตร พร้อมมีชายอายุ 45-50 ปี สูงประมาณ160 ซม.ผิวดำแดง จำนวน 1 คน เดินลงมาจากรถคันดังกล่าวมุ่งหน้ามายังทีมสื่อ แล้วได้สอบถามว่า"เป็นนักข่าว ใช่หรือไม่ จะมาทำข่าวเวที ใช่หรือไม่ขอคุยหน่อย"โดยชายคนดังกล่าวอ้างเป็นตัวแทนของบริษัทระบุว่าไม่ต้องการให้ทีมสื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวในเวทีรับฟังความคิดอ้างว่ามีการเคลียเวทีไว้เสร็จแล้วหากสื่อเข้าไปก็จะก่อให้เกิดปัญหาเวทีไม่ราบรื่น
พร้อมระบุจะจ่ายค่าเสียเวลาและค่าน้ำมันให้ทีมสื่อจึงได้พยายามชี้แจงว่าเราเข้ามาทำข่าว ไม่ได้มีการตั้งแง่กับบริษัทฯ ที่เข้ามาขอประทานบัตรเรามาทำข่าวการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพัทลุง ซึ่งได้รับการแจ้งข่าวจากชาวบ้านในพื้นที่ให้ช่วยเข้าทำข่าวและสังเกตการณ์ แต่ชายคนดังกล่าวยืนยัน พร้อมระบุชัดเจนว่าไม่ต้องการให้ทีมสื่อเข้าไปทำข่าว
.