ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช พร้อมด้วย ส.ส.สงขลา ศาสตร ศรีปาน และ ส.ส.พิจิตร ภูดิท อินสุวรรณ์ เดินทางมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ สอบถามความคืบหน้ากรณีบัตรพลังงาน ว่าเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่ หลังจากได้ยื่นเรื่องใน ดีเอสไอเข้าเป็นคดีพิเศษ เมื่อ 9 วันที่แล้วโดย ส.ส.บอกว่า สำนักงานของบัตรพลังงานดังกล่าวตั้งอยู่ในหาดใหญ่ แต่คนพื้นที่ไม่โดนหลอก ส่วนใหญ่คนที่โดนหลอกอยู่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การทำงานของบริษัทนี้จะเปิดเป็นครั้งคราว ทั้งนี้ไม่ทราบว่ามีโรงงานหรือไม่ ส่วน ส.ส.บอกว่า ในพื้นที่พบการขายบัตรพลังงานทำให้เกิดความเสียหาย แต่ยังไม่มีผู้ร้องทุกข์
ด้านนายสามารถระบุว่า บริษัทดังกล่าว ได้มีการจดทะเบียนขายตรง มีสินค้าหลักเป็นสบู่ แต่ไม่ได้แจ้งว่าจำหน่ายบัตรพลังงานพฤติการณ์ที่อาจเข้าข่ายคือ มีการประชุม 50 - 100 คน ตั้งเป็นเครือข่าย ส่งคนไปหว่านล้อม โน้มน้าวชาวบ้าน ร่วมเป็นสมาชิกจะได้ซื้อบัตรพลังงาน ซึ่งเป็นสินค้า ในราคา 1100 บาท แล้วให้นำไปขายต่อ ในราคา 1500 - 3000 บาท เมื่อคำนวนผลตอบแทน จะได้อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าธนาคาร ซึ่งเข้าข่ายผิดพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกง หรือแชร์ลูกโซ่
ด้านรองผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.อานนท์ อุนทริจันทร์ บอกว่า เบื้องต้นบัตรพลังงานเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน และโฆษณาเกินจริง ส่วนกรณีว่าจะเข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่หรือไม่ ต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมกับต้องพิจารณาว่ามีลักษณะเป็นคดีพิเศษไม่