ในกุฏิหลังแรกพบพระเสน่ห์ กณตวณโณ อายุ ชาวจังหวัดสระบุรี อายุ 62 ปี พรรษา 20 นอนเมาอยู่บนเตียงด้านข้างเตียงพบสุราขาว 35 ดีกรี จำนวน 3 ขวด ดื่มหมดไปแล้ว 2 ขวด ส่วนกุฏิหลังที่ 2 พบ พระอุทิศ ฐานธมโม ชาวสระบุรี อายุ 63 ปี พร้อมด้วยมีดดาบยาว และมีอาการเมามาย ด้วยเช่นกัน จึงทำการเชิญตัวขึ้นรถยนต์สายตรวจไปที่สภ.ทับปุดพร้อมประสานพระวินยาธิการและเจ้าอาวาสวัดไสเสียดเพื่อทำการลาสิกขาต่อไป
เบื้องต้นพบว่าขณะที่ชาวบ้านได้เข้ามาที่วัดเพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษ และได้เดินมาดูกุฏิที่บรรพบุรุษได้สร้างถวายวัดไว้ ก็ได้พบกับพระภิกษุทั้ง 2 รูปแอบดื่มเหล้าอยู่ในกุฏิและมีอาการเมามาย จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันทีจากการสอบถามทราบว่าเมื่อ 2 วันที่แล้ว พระอุทิศฯได้เดินทางมาจากจังหวัดสระบุรี เพื่อมาเยี่ยมพระเสน่ห์ฯที่ประจำอยู่ที่วัดไสเสียดมาหลายพรรษาแล้ว
โดยทั้ง สองนั้นเป็นเพื่อนรักกัน และได้ชักชวนกันดื่มฉลองที่ไม่ได้พบกันนาน โดยใช้ให้โยมขี้เมาใกล้วัดไปซื้อเหล้ามาถวายและดื่มด้วยกัน ขณะที่นำตัวขึ้นรถสายตรวจ พระอุทิศฯได้ได้ท้าต่อยกับชาวบ้าน และบอกว่าเป็นทหารผ่านศึก เคยผ่านการรบในประเทศเขมรและรบกับคอมมิวนิสต์มาแล้ว ซึ่งได้ฆ่ามาแล้วมากกว่า 40 ศพ