"ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน" อาเซียนซัมมิท 34

"ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน" คือหัวใจสำคัญของการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 34 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ และจะเปิดฉากขึ้นช่วงสุดสัปดาห์นี้


รองอธิบดีกรมอาเซียน อุศนา พีรานนท์ บอกถึงหัวใจสำคัญที่ใช้เป็นสโลแกนในการจัดการประชุมว่า มาจากแนวคิดที่นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ประกาศไว้ คำว่าก้าวไกล (Advancing) หมายถึงให้อาเซียนมองและก้าวไปด้วยกันสู่อนาคตอย่างมีพลวัต ใช้ประโยชน์จากวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม และสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันควบคู่ไปกับการสร้างระบบภูมิคุ้มกันจากเทคโนโลยีก้าวกระโดด และความท้าทายต่างๆ ในอนาคตเพื่อก้าวไปสู่ดิจิทัลอาเซียน (Digital ASEAN)

ส่วนร่วมมือ ร่วมใจ (Partnership) คือการส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนภายในอาเซียน กับประเทศคู่เจรจา และกับประชาคมโลก โดยการเสริมสร้างความร่วมมือที่มีอาเซียนเป็นแกนกลาง เพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับนานาประเทศ โดยคำนึงถึงประโยชน์ต่อประชาชน และเพิ่มบทบาทของอาเซียนในเวทีโลกในการแก้ไขปัญหาสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะในปีวัฒนธรรมอาเซียน ค.ศ. 2019 รวมถึงการเชื่อมโยงต่างๆ ในภูมิภาค เพื่อก้าวไปสู่อาเซียนที่ไร้รอยต่อ

สำหรับยั่งยืน (Sustainability) คือการสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นความมั่นคงที่ยั่งยืน ความยั่งยืนด้านการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงเศรษฐกิจสีเขียว และการพัฒนาที่ยั่งยืน

รองอธิบดีกรมอาเซียน บอกอีกว่า "ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน" ยืนอยู่บนฐาน 3 เสาหลักของอาเซียน คือการเมืองความมั่นคง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม โดยเฉพาะการบริหารจัดการชายแดนร่วมกัน เนื่องจากไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค หรือ "ฮับ" เป็นการเปิดประตูของแต่ละประเทศให้เสรีมากขึ้น แต่จะทำอย่างไรไม่ให้แต่ละประเทศเกิดผลเสีย ฉะนั้นการอำนวยความสะดวกต้องทำควบคู่กับงานความมั่นคง

ส่วนในแง่เศรษฐกิจ มีการพูดถึง "ดิจิทัลอาเซียน" มีการสร้างความร่วมมือด้านกฎหมายต่างๆ ให้เชื่อมโยงกันได้ รวมถึงการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมอย่างไร้รอยต่อ เพื่อให้อาเซียนเป็นศูนย์รวมทั้งด้านการค้า การลงทุน และวัฒนธรรม

ด้านมุมมองของสื่อมวลชนอิสระอาวุโส ผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาเซียน กวี จงกิจถาวร เห็นว่าสโลแกนที่ใช้คือ "ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน" เป็นสโลแกนที่ครอบคลุมทุกประเทศในอาเซียน โดยประเทศไทยเตรียมการการเป็นเจ้าภาพมากว่า 2 ปี ประเด็นที่น่าจับตาในการประชุมอาเซียนครั้งนี้ เป็นเรื่องที่อาเซียนจะมีกรอบความร่วมมือใหม่ที่มีอาเซียนเป็นศูนย์กลาง คืออินเดียกับแปซิฟิก หรือที่เรียกกันว่า "อินโดแปซิฟิก" ที่เน้นโครงการเชื่อมโยงกับการพัฒนาที่ยั่งยืน

สำหรับการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่จะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ จะเป็นการพบปะหารือกันของผู้นำและภาคส่วนต่างๆ ในอาเซียนแบบเต็มคณะ ส่วนในวันที่ 23 มิถุนายนจะเป็นพิธีการเปิดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 34 โดยหลังการประชุมจะมีการแถลงข่าวของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุม และการประชุมสุดยอดผู้นำในประเทศบรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ หรือที่เรียกว่า BIMP-GAGA

แน่นอนว่าสิ่งที่น่าจับตามากที่สุดคือภารกิจในการเป็นประธานการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯคนที่ 29 สมัยที่ 2