ตัวอย่างที่ว่านี้คือเหตุการณ์ยิงปะทะกันระหว่างทหาร กับผู้ต้องหาคดีความมั่นคงที่ อำเภอยะหา จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา แล้วเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านชาวบ้านจุดปะทะ จากนั้นก็มีปฏิบัติการข่าวสาร หรือ ไอโอ ตามมาทันที
ไอโอขั้นที่ 1 กลุ่มที่เชื่อว่าอยู่ตรงข้ามกับรัฐ ปล่อยข่าวว่าทหารเป็นฝ่ายเผาบ้าน และขโมยทรัพย์สิน ฝ่ายทหารโต้กลับว่าไม่ได้เผา ไม่มีทรัพย์สินหาย และอ้างว่าทุกครั้งที่มียิงปะทะ จะมีทีมปล่อยข่าวกล่าวหาเจ้าหน้าที่แบบนี้ตลอด
ไอโอขั้้นที่ 2 เกิดขึ้นในช่วงที่ นายซูการ์โน่ มะทา ส.ส.ยะลา เขต 2 พรรคประชาชาติ ลงพื้นที่เกิดเหตุ แล้วกลับออกมานำภาพถ่ายและโพสต์เฟซบุ๊คอ้างเสียงจากชาวบ้านทำนองว่า "เจ้าหน้าที่น่าจะกระทำการเกินกว่าเหตุ" และเรียกร้องให้ตรวจสอบ หากเกินกว่าเหตุจริงจะได้ช่วยเหลือเยียวยา ต่อมาฝ่ายทหารออกมาโต้กลับว่า เป็นการจงใจกล่าวหาเจ้าหน้าที่ ให้ระวังเป็น "แนวร่วมมุมกลับ" ของกลุ่มผู้ไม่หวังดี
ความหมายของ "แนวร่วมมุมกลับ" คือ จริงๆ ไม่ได้เป็นแนวร่วมโจร แต่แสดงความเห็นหรือกระทำการบางอย่าง อาจไปเข้าทางโจรที่จ้องดิสเครดิตเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว แบบนี้เรียก "แนวร่วมมุมกลับ"
ไอโอขั้นที่ 3 ไม่แน่ว่าเป็นความจงใจหรือไม่ ทั้งนายซูการ์โน่ และพี่ชาย คือ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงทำนองว่า ถูกป้ายสีมาตลอดว่าเป็นแนวร่วม ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็น และการลงพื้นที่เกิดเหตุ ก็เป็นการทำหน้าที่ ส.ส. (จริงๆ แล้วคำชี้แจงจากฝ่ายทหารก่อนหน้านี้ ไม่ได้กล่าวหาว่านายซูการ์โน่เป็นแนวร่วมตรงๆ แต่เตือนว่าอาจเป็นแนวร่วมมุมกลับ)
จากนั้นก็มี "ไอโอขั้นสุด" ออกมา คือมีฝ่ายลึกลับแพร่ข้อมูลรณรงค์ให้ล่าชื่อถอดถอน นายซูการ์โน่ ออกจากการเป็น ส.ส. โดยอ้างว่าไม่ควรมีแนวร่วมโจรใต้อยู่ในสภา
ฝ่ายความมั่นคงยืนยันว่า การสร้างข่าวรณรงค์ให้ถอดคุณซูการ์โน่ ไม่ใช่การไอโอจากเจ้าหน้าที่ แต่เป็นการกระทำของมือที่สาม ทำให้เจ้าหน้าที่เสียหาย และคุณซูการ์โน่เองก็เสียหาย กลายเป็นรอยร้าวระหว่าง ส.ส.กับฝ่ายความมั่นคง
นี่คือตัวอย่างของ ไอโอ ที่สร้างความสับสนอลหม่าน และถึงที่สุดแล้วฝ่ายที่ได้ประโยชน์อาจไม่ใช่คู่ขัดแย้งในตอนแรกเลยด้วยซ้ำ