โฆษกกรมสรรพากร ปิ่นสาย สุรัสวดี ระบุ กรมฯได้หารือกับสมาคมธนาคารไทย และตัวแทนธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เรื่องการแก้ไขประกาศเรื่องการเก็บภาษีจากดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ โดยผู้ที่ไม่ประสงค์ให้ธนาคารเปิดเผยข้อมูล จะต้องมายืนยันกับธนาคาร ไม่เช่นนั้นธนาคารจะถือว่าผู้ฝากเงินให้ความยินยอมส่งข้อมูลดอกเบี้ยออมทรัพย์ให้กับกรมสรรพากรทันที ซึ่งกรมฯจะได้ออกประกาศในสัปดาห์หน้า
สำหรับเจ้าของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่ไม่ประสงค์จะส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร จะต้องไปทำเรื่องแจ้งความประสงค์ที่ธนาคารให้ชัดเจน โดยผู้ที่ไม่ประสงค์จะเปิดเผยข้อมูล ธนาคารต้องหักภาษีเจ้าของเงินฝากทุกกรณีแม้ดอกเบี้ยจะไม่ถึง 20,000บาทก็ตาม เพราะไม่เข้าเงื่อนไขการได้รับยกเว้น
ส่วนใครที่ต้องการให้ธนาคารฯส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรก็อยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร เพราะธนาคารจะส่งข้อมูลไปให้ยังกรมสรรพากรเอง ซึ่งถ้าหากตรวจสอบแล้วมีดอกเบี้ยออมทรัพย์ไม่ถึง 20,000บาท ก็จะได้รับการยกเว้นเสียภาษี
การดำเนินการดังกล่าวของกรมฯ จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ ที่ส่วนใหญ่หรือราว 99% ของบัญชีออมทรัพย์ทั้งหมดที่มีอยู่ราว 85 ล้านบัญชี มีรายรับจากดอกเบี้ยไม่เกิน 2 หมื่นบาท ซึ่งได้รับยกเว้นภาษีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปธนาคาร เพื่อลงนามยินยอมให้ธนาคารส่งข้อมูลดอกเบี้ยให้แก่กรมสรรพากรตามประกาศฉบับเดิม ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหาการหลบเลี่ยงภาษีของผู้ฝากบัญชีออมทรัพย์ที่มีดอกเบี้ยเกิน 2 หมื่นบาทต่อปี และเป็นส่วนน้อยของระบบ
ด้านรองเลขาธิการสมาคมธนาคารไทย ชุลีพร น่วมทรง ระบุ ผู้ที่เงินฝากในบัญชีทุกรายเป็นผู้ที่ต้องเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้กรมสรรพากรจะให้สิทธิประโยชน์พิเศษผู้ฝากเงินที่มีดอกเบี้ยรวมกันไม่ถึง 2 หมื่นบาทต่อปี ได้รับการยกเว้นไม่เสียภาษี
การเปิดเผยข้อมูลภาษีดอกเบี้ยเงินฝากนี้ไม่ได้ขัดต่อข้อกฎหมาย เนื่องจากธนาคารนำส่งเฉพาะข้อมูลเรื่องภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์เท่านั้น ไม่ได้เป็นการส่งข้อมูลเงินฝากในระบบของเจ้าของบัญชีให้กับกรมสรรพากร ซึ่งข้อมูลส่วนนี้ธนาคารต้องจัดส่งให้กรมสรรพากรทุกปีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ธนาคารจะมีการปรับปรุงระบบการทำงานและจะส่งข้อมูลเป็นอิเล็กทรอนิกส์ให้ทันภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2562
ปัจจุบันผู้ฝากเงินอาจมีหลายบัญชี และแต่ละธนาคารจะไม่รู้ว่าลูกค้ามีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ถึง 2 หมื่นบาท และได้รับสิทธิการยกเว้นภาษีหรือไม่ แต่หากทุกธนาคารส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร และกรมฯจะประมวลผลเพื่อชี้แจงมายังธนาคารว่า ใครมีดอกเบี้ยออมทรัพย์เกิน 2 หมื่นบาทบ้าง เพื่อที่ธนาคารจะหักภาษีได้อย่างถูกต้อง
สำหรับการส่งข้อมูลของธนาคารให้กรมฯ จะส่งในเดือนพฤษภาคมและเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เพื่อที่กรมฯจะนำข้อมูลเจ้าของบัญชีไปประมวลผล และส่งกลับไปให้ธนาคารจัดเก็บดอกเบี้ยออมทรัพย์ หากเจ้าของบัญชีเงินฝากมีดอกเบี้ยทุกบัญชีรวมกันเกิน 2 หมื่นต่อปีในเดือนมิถุนายนและธันวาคมของทุกปี