พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวภายหลัง ประชุม ครม. เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มองการเชิญตัวแทนทูต 12 ประเทศ ร่วมสังเกตการณ์คดี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถือเป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของไทยหรือไม่ ว่า ตนไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นตัวแทนทูตจริงหรือเปล่า ตอนนี้ให้กระทรวงการต่างประเทศติดตามอยู่ โดยพูดคุยกับเอกอัครราชทูตต่างๆ ตนไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง เพราะเราจำเป็นต้องอยู่ในโลกใบนี้เช่นเดียวกัน ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุด คือ เราปฏิบัติตามทุกอย่างในเรื่องของรัฐธรรมนูญไทย กฎหมายไทย ซึ่งทุกเรื่องเป็นเรื่องของกฎหมายทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นคดีเก่า คดีใหม่ รวมถึงเรื่องศาลทหารก็เกิดขึ้นมานานแล้ว
และคดีนี้เกิดตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งระหว่างนั้นมีการใช้คำสั่งอยู่ แต่หลังจากนั้นเราได้มีการปลดล็อกไปแล้วคำสั่งนี้ แต่ในช่วงนั้นบ้านเมืองยังไม่สงบ ไม่เรียบร้อย ก็มีความจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษในช่วงนั้น และเมื่อเราปลดล็อกแล้ว และปรึกษาฝ่ายกฎหมายแล้ว ก็ไม่สามารถจะทำย้อนขึ้นไปข้างบนได้ เว้นแต่ว่าหลังจากนั้นมาก็ไม่เข้ากระบวนการศาลทหาร ซึ่งศาลทหารเรามีมาหลายสิบปี ไม่ได้มาตั้งใหม่สมัยรัฐบาลตนซึ่งก็จำเป็น สถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างนั้น
ระบุ "ต้องมองวัตถุประสงค์คนที่เชิญ คนที่มา คนที่นำมา อะไรก็แล้วแต่ ผมไม่อยากให้คนไทยไปคล้อยตามมากนัก เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมของเราเอง ถ้าเราไม่เชื่อมั่นและยึดถือกระบวนการยุติธรรมของเรา มันก็เป็นโอกาสที่ใครจะแทรกแซงเข้ามา จะด้วยความหวังดีหรือไม่หวังดีก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็ต้องทำความเข้าใจกันต่อไป วันนี้อย่าไปขัดแย้งกับต่างประเทศเขาอีกเลย อยู่ที่คนของเราไปทำอะไรกันมา ฉะนั้นเรื่องอะไรที่เป็นของเราก็เป็นของเรา แก้ปัญหาของเราภายในประเทศให้ได้ก็แล้วกัน หากเป็นอย่างนี้อีกหน่อยต้องให้ต่างประเทศมาแก้ให้เราทุกเรื่องเลยหรืออย่างไร ทั้งที่มันเป็นเรื่องของเรา กฎหมายของเรา กระบวนการยุติธรรมของเรา เราต้องภูมิใจในความเป็นชาติของเรา" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว