
ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน บอกว่า กรณีการแถลงจับขั้วของพรรคเพื่อไทยนั้น ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ น่าจะมองดูตัวเองแล้วว่าไม่มีโอกาสเข้าสภา หากไม่ได้เป็นรัฐบาล ก็จะไม่มีตำแหน่งอะไรเลย จึงต้องดิ้นเฮือกสุดท้าย ทั้งๆ ที่มองดูแล้วเสียงยังปริ่มน้ำ แต่หากไม่ได้แสดงออกอะไรเลย ก็อาจจะไม่มีโอกาสได้แสดงอะไรอีก
นายสมศักดิ์ ยังตั้งข้อสังเกตว่า สิ่งที่หลายฝ่ายกังวลในช่วงนี้ก็คือ การแสดงออกที่ทำอยู่นั้น หากไม่สมหวัง จะมีการชักชวนพี่น้องประชาชนออกมาสร้างความขัดแย้งอีกหรือไม่ เพราะแต่ละคนที่ออกมาพูด ก็พูดในลักษณะเหมือนเรียกร้องในมุมของตัวเองเป็นหลัก และทำให้ประชาชนเป็นเดือดเป็นแค้น เป็นการจุดชนวนความขัดแย้ง โดยเฉพาะที่พยายามเรียกตัวเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ตรงนี้เหมือนพยายามแบ่งฝักแบ่งฝ่าย บีบคนที่ไม่สนับสนุนตนเองว่าเป็นเผด็จการ ไม่ทราบว่าจะฟ้องร้องได้หรือไม่ นักกฎหมายของพรรคพลังประชารัฐกำลังสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่
แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ยังบอกด้วยว่า การบริหารงานของรัฐบาลในช่วงรอ กกต.รับรองผลเลือกตั้ง ถือว่าไม่มีปัญหา เพราะรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีอำนาจเต็ม ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ ทำให้เป็นจุดแข็งหนึ่งที่สามารถช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนได้เต็มที่ ไม่ว่าจะสถานการณ์ฝนทิ้งช่วง หรือภัยแล้ง รวมทั้งปัญหาหมอกควัน ส่วนตัวอยากเสนอให้รัฐบาล พลเอกประยุทธ์ นำนโยบายที่พรรคพลังประชารัฐใช้หาเสียงไปดำเนินการได้ทันทีในช่วงเวลาที่กำลังรอคอยรัฐบาลใหม่ เช่น นโยบายช่วยชาวนา ทั้งค่าปลูก ค่าเก็บเกี่ยว รัฐบาลสามารถทำได้เลย ไม่ต้องรอจนกลายเป็นช่วงหลุมอากาศ