โดยเนื้อหาส่วนใหญ่ระบุว่ามุ่งจะแก้ไขปัญหาต่างๆ ของสังคมไทยโดยเฉพาะเศรษฐกิจและความเป็นอยู่รวมทั้งต่อต้านรัฐบาลที่มาจากอำนาจเผด็จการ เช่นการศึกษาที่ไม่ตอบโจทย์ คัดค้านการเกณฑ์ทหารล้างมรดกคณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติ (คสช.) แก้รัฐธรรมนูญปี 2560 ทำให้คนเท่าเทียมกัน
ด้านนายธนาธร กล่าวว่าภาคเหนือมีสิ่งที่สามารถนำมาพัฒนาเพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นโดยเฉพาะการแปรรูปทางการเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค่าเพราะเมื่อแปรรูปแล้วได้ราคาที่ดีกว่ามาก ควรมีการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคให้มากเพื่อเชื่อมโยงการคมนาคมโดยเฉพาะเมื่ออ้างว่าต้องการพัฒนาเมืองท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้จะทำไม่ได้เพราะการปกครองในปัจจุบันรวมศูนย์อำนาจอยู่ที่ส่วนกลางและเผด็จการก็กดหัวประชาชนเอาไว้ เมื่ออำนาจอยู่ในมือคนกลุ่มเดียวก็ย่อมเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มตนหรือทำในสิ่งที่ประชาชนไม่ต้องการ เมื่อต้องเลือกตั้งเพราะไม่สามาถเลื่อนเวลาออกไปได้ก็มีการเอาใจประชาชนช่วงท้ายๆ และตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เองถึง 250 คนเพื่อหวังสืบทอดอำนาจโดยอ้างเรื่องความวุ่นวายทั้งๆ ที่ความวุ่นวายนั้นเกิดจากเผด็จการเอง
นายธนาธร ยังได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ด้านล่างเวทีว่ากรณีที่มีกระแสข่าวโจมตีว่าอย่างไรก็ตามขอทำหน้าที่ต่อไปโดยไม่ขอใส่ใจและต้องเดินหน้าต่อไป เพราะบางอย่างเราควบคุมไม่ได้ และเมื่อถูกสอบถามว่ามีความมั่นใจในจำนวน ส.ส.ภาคเหนือหรือไม่อย่างไรนายธนาธรระบุว่าใกล้ถือเวลาเลือกตั้งอีกไม่กี่วันแล้วคงไม่ต้องพูดกันถึงเรื่องนี้แล้วและไปวัดกันในวันที่24 มี.ค.ดีกว่า
.