เมื่อวันที่ 24 ก.พ.62 เวลา 19.00 น.ที่สนามกีฬาบางปลา จ.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่หัวเมืองพลังประชารัฐ นำโดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง และผู้สมัคร ส.ส.ชัยนาท พร้อมผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ ทั้ง 7 เขต และนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ
นายอุตตม กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า เรารบด้วยนโยบาย ถ้าใครแหลมเข้ามาเราก็พร้อมรบด้วยอย่างอื่นได้เหมือนกัน สมุทรปราการเป็นเมืองหลักของประเทศ ศักยภาพสูง ถ้าพปชร.ได้รับความไว้วางใจ นโยบายหลักคือพัฒนายกระดับให้เป็นเมืองหน้าอยู่เคียงคู่เมืองอุตสาหกรรม จะผลักดันสมุทรปราการให้เข้าพื้นที่ อีอีซี ให้มีสิทธิประโยชน์ทุกด้าน
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า อย่าขายเสียงให้ใครนะพี่น้อง แค่นี้ก็มีคนมาแอบซื้อเสียงแล้ว อย่าให้ใครซื้อต้องเลือกพปชร. ไปดูพรรคอื่นหาเสียงเช้ามาก็ด่า เย็นมาก็ด่า ตกลงมันจะหาเสียงหรือขัดแย้ง เพราะนิสัยมันชอบแตกแยก เห็นคนสงบสุข รักกันไม่ได้ เราทนไม่ได้แล้วกับคนพวกนี้ พปชร.จะพาให้พ้นความขัดแย้งให้ได้ ไอพวกปากหอยปากปู
นายสุริยะ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า มีการพูดกันว่าเลือกตั้ง 24 มี.ค.62 เป็นการสู้กันของ พปชร.ที่เสนอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯต่อนั้น ถูกหาว่าสืบทอดอำนาจเผด็จการไปสู้กับระบอบประชาธิปไตย เขาพยามวาดภาพว่าเป็นเผด็จการเลวร้าย ถ้าจำกันได้ช่วงที่บ้านเมืองขัดแย้งของ 2 ฝ่าย จนเกิดความเสียหาย ผู้คนล้มตาย เศรษฐกิจยับเยิน พล.อ.ประยุทธ์คือคนที่เสียสละนำบ้านเมืองสู่ความสงบ แม้จะถูกเรียกว่าเป็นเผด็จการ แต่ท่านก็ทำเพื่อประชาชนไม่เคยทำเพื่อครอบครัว ไม่เหมือนพรรคเพื่อไทย ที่เมื่อชนะการเลือกตั้งเข้ามา ก็ออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อช่วยให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีพ้นจากข้อหาทุจริตคอร์รัปชั่น ออกนโยบายเอื้อประโยชน์ให้ครอบครัว จนกระทั่งล่าสุดที่มีการพยายามแก้ปัญหาเผด็จการรัฐสภาด้วยการออกกฎหมายป้องกัน ไม่ต้องการให้พรรคการเมืองมีอำนาจมากเกินไป เพราะจะเอื้อประโยชน์พวกพ้อง แต่นายทักษิณ ให้มีการแตกเป็นหลายพรรคเพื่อให้ได้เสียงข้างมาก ประเทศไทยจะกลับไปประท้วงอีก ดังนั้น ขอร้องชาวสมุทรปราการอย่าไปเลือกพรรคตระกูลเพื่อทั้งหลาย ให้มาเลือกพปชร.