IO ยุทธการข้อมูลข่าวสาร
ไม่ใช่ภาพที่เห็นกันบ่อยๆ เมื่อเหล่าบรรดา "ขุนทหาร" จะออกมา "คอมเมนต์" ประเด็นทางการเมือง แต่หลังจาก ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมาเตือนบรรดากลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เป็นคนประเภท "ทำประเทศวุ่นวาย ไม่มององค์ประกอบเลื่อนเลือกตั้ง"
คำพูดประโยคนี้สร้างแรงกระเพื่อมไปถึง "โบว์ น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา" แกนนำกลุ่มอยากเลือกตั้ง"โบว์" โพสต์เฟซบุ๊ก BowNuttaa Mahattana ตอบโต้ทันทีว่า"การให้สัมภาษณ์ของ ผบ.ทบ. มีเนื้อหาที่น่าละอายแก่ใจเป็นอย่างยิ่ง"
มีโบว์ ก็ต้องมี "วัฒนา เมืองสุข"แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความเช่นกัน ว่า เป็นห่วงทัศนคติของ ผบ.ทบ.นอกจากจะเป็นการพูดโดยไม่ใช้ความคิดแล้วผบ.ทบ.ยังขาดความเข้าใจและไม่เคารพสิทธิและเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ
รวมไปถึงฟากฝั่งการเมือง อยากให้บิ๊กแดงเป็น "ทหารมืออาชีพ" อยู่ในกรม กอง ไม่ออกมาวิพากษ์การเมือง
แต่การปะทะทาง "วาทะกรรม" ไม่ได้หยุดเท่านั้นเมื่อ กองทัพ และคสช. "แทคทีม" ออกมาในทิศทางเดียวกัน
ทั้ง โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย "พล.ต.กฤษณ์จันทรนิยม" ที่ "ขอให้ประชาชนคนไทยมีสติ และใช้วิจารณญานในการรับรู้ข่าวสารต่างๆว่ามีเจตนาอย่างไร หวังให้เกิดผลอะไรหรือไม่การจัดการเลือกตั้งจะต้องเกิดขึ้นตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดในกรอบ 150 วันคือไม่เกินวันที่ 9 พฤษภาคม"
ไม่เพียงเท่านั้น ที่ประชุมสำนักเลขาธิการคสช. มี พล.อ.ณัฐพลนาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก (รองผบ.ทบ.) ในฐานะรองเลขาธิการคสช.เป็นประธานการ
รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง บอกให้เห็นถึงการให้ความสำคัญทางการเมือง และชี้ว่า ประเทศอยู่ในช่วงวาระสำคัญ ที่จะมีพระราชพิธี และการจัดการเลือกตั้งซึ่งรัฐบาลและคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำลังเตรียมการในงานดังกล่าวเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในทุกมิติ
ซ้ำย้ำว่า คสช. ให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) คงปฏิบัติงานด้วยความเข้มแข็งในการสนับสนุนงานบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล
ตอกย้ำว่า ประเทศที่แม้จะปลดล็อค "การเมือง" แต่ในห้วงเวลานี้การดูแลความสงบเรียบร้อย เพื่อเอื้ออำนวยต่อการเลือกตั้งยังเป็น "หน้าที่" กกล.รส. จะต้องปฏิบัติตามแนวทางที่ คสช.กำหนดไว้
เรื่องนี้ มองให้เห็นได้ชัดเจนว่าจากนี้ไป ทหารจะออกมาตอบโต้ทางการเมือง "ทุกเม็ด"
สถานการณ์ในตอนนี้ เรียกว่า IO หรือ InformationOperation หรือ ยุทธการทางข้อมูลข่าวสารโดยการใช้โครงข่ายอินเทอร์เน็ตและอิเล็กทรอนิกส์ จิตวิทยามวลชน และภาพมายาทางทหารเพื่อสร้างอิทธิพลในการตัดสินใจของ "ฝ่ายตรงข้าม"โดยการควบคุมข้อมูลข่าวสารที่ศัตรูได้รับ
ยุทธการทางข้อมูลข่าวสาร ใช้มาตั้งแต่ ยุค "กษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช"ที่ควบคุมประเทศราช ด้วยการให้ "ปัญญาชน" ของประเทศที่ถูกยึดครอง เข้าร่วมรัฐสภา ของจักรวรรดิกรีก
แม้แต่กษัตริย์ "เจงกิสข่าน มหาราช" สั่งให้ทหารไปจุดไฟ3 กอง แทนที่จะเป็นกองเดียวเพื่อข่มขวัญศัตรู
หลักฐานเหล่านี้ ย้ำให้เห็นว่า รัฐบาลทั่วโลก ต่างให้ความสำคัญในการควบคุมข้อมูลข่าวสารเป็นอย่างมากไม่เว้นแม้แต่ในยุค รัฐบาลประชาธิปไตย "ทักษิณ ชินวัตร" ควบคุมข่าวสารด้วยกลไกงบโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่โยน "เศษเนื้อข้างเขียง" ให้สื่อในคาถางับไว้ไม่ให้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ส่วนสือที่ไม่ใช้พวก ก็อยู่อย่าง "อดๆ อยากๆ" ไป
สถานการณ์ต่อจากนี้ไป เราจะได้เห็นการตอบโต้ "ทุกเม็ด"โดยไม่ปล่อยให้ฝ่ายการเมือง "พล่าม" แต่งคำพูด "เอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น" อยู่ฝ่ายเดียวอีกต่อไป