svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

สนามบินเบตง ยะลา สัญญลักษณ์พัฒนาและสันติสุข

แนวทางสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากการเปิดโต๊ะพูดคุยกับกลุุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ เพื่อยุติความขัดแย้งและการต่อสู้ด้วยอาวุธแล้ว อีกด้านหนึ่งยังต้องใช้งานพัฒนา เพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และความกินดีอยู่ดี เพราะเชื่อว่าเมื่อประชาชนมีเงิน มีงาน มีความสุข ก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อการปลุกระดมในทางที่ผิด ให้จับปืนมาต่อสู้กับรัฐ


หนึ่งในโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ที่กำลังจะเป็นผลเป็นรูปธรรม ก็คือการก่อสร้างสนามบินเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งต้องเรียกว่าเป็น "สนามบินใต้สุดแดนสยาม" ติดขอบประเทศกันเลย โครงการนี้เริ่มตอกเสาเข็มกันมาตั้งแต่ปี 59 งานก่อสร้างมีกำหนดเสร็จภายในปีนี้ ทั้งรันเวย์ และอาคารผู้โดยสาร แต่ล่าสุด "ทีมล่าความจริง" ลงพื้นที่ไปตรวจสอบมา พบว่างานก่อสร้างบางส่วนล่าช้ากว่าแผน คำถามก็คือคนเบตงจะมีสนามบินไว้เชิดหน้าชูตา เปิดใช้งานได้ในช่วงต้นปีหน้าตามกำหนดหรือไม่ ติดตามจากรายงานพิเศษของคุณอัญชลี อริยกิจเจริญ

"เบตง" คืออำเภอหนึ่งของจังหวัดยะลาซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น "อำเภอใต้สุดแดนสยาม" อำเภอนี้อยู่ติดชายแดนมาเลเซีย เป็นเมืองที่มีความเคลื่อนไหวทางธุรกิจการค้าสูง ทั้งยังผสมผสานวัฒนธรรม ภาษา และชาติพันธุ์ที่หลากหลาย มีธรรมชาติสวยงาม จึงมีนักท่องเที่ยวที่เป็นคนไทยเองและจากประเทศเพื่อนบ้านแวะไปเยี่ยมเยือนเพื่อชมความงามเป็นจำนวนมาก

อำเภอเบตง แม้จะอยู่ห่างจากตัวจังหวัดยะลาแค่ร้อยกว่ากิโลฯ แต่การเดินทางโดยรถยนต์ค่อนข้างยากลำบาก ด้วยถนนหนทางที่คดเคี้ยวลัดเลาะไปตามไหล่เขา อารมณ์เดียวกับเส้นทางสายโค้งไปอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างตัวอำเภอกับตัวจังหวัดมีระยะห่าง ถึงขั้นที่ในอดีตมีรถป้ายทะเบียนเบตง เพื่อไม่ต้องเดินทางไปจดทะเบียนและต่อทะเบียนถึงตัวเมืองยะลา

จากความจำเป็นเรื่องระยะทาง และศักยภาพเรื่องการท่องเที่ยว ทำให้รัฐบาล จังหวัดยะลา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีแผนก่อสร้างสนามบินเบตงขึ้น เพราะหากจะใช้บริการท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ ก็ต้องต่อรถเดินทางเข้าเบตงอีกเป็นวันๆ หรือหากจะใช้บริการสนามบินปีนังฝั่งมาเลเซีย ก็จะทำให้เบตงเสียโอกาส แนวคิดการก่อสร้างสนามบินเบตงจึงริเริ่มและผลักดันกันมานานนับสิบปี กระทั่งมาเริ่มตอกเสาเข็มก่อสร้างจริงจังเป็นครั้งแรกเมื่อปี 59 ในรัฐบาล คสช.

ท่าอากาศยานเบตง เป็นท่าอากาศยานแห่งใหม่ลำดับที่ 29 สังกัดกรมท่าอากาศยาน กระทรวงคมนาคม และนับเป็นท่าอากาศยานของประเทศไทยแห่งที่ 39 เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนตุลาคม 2559 หากสร้างแล้วเสร็จจะทำให้การคมนาคมขนส่งภายในจังหวัดยะลา และการเชื่อมต่อสู่ประเทศมาเลเซียผ่านด่านเบตงและพื้นที่ใกล้เคียงสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและความมั่นคงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นการเพิ่มศักยภาพการรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จากปีละ 600,000 คน เป็น 1,000,000 คน และมีรายได้จากการท่องเที่ยวมากกว่า 4,000 ล้านบาทต่อปี

จุดเริ่มต้นของการมีท่าอากาศยานเบตง หรือสนามบินเบตงแห่งนี้ สืบเนื่องมาจากสภาพภูมิประเทศของ อำเภอเบตง ล้อมรอบไปด้วยหุบเขา เพราะฉะนั้นการเดินทางด้วยรถยนต์จึงเป็นเรื่องที่มีความยากลำบาก ในปี 2551 ทางองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ ไจก้า เขามีการศึกษาและนำเสนอแผนแม่บทขึ้นมาว่าควรมีสนามบินเกิดขึ้น
สนามบินเบตง ตั้งอยู่ในพื้นที่ 2 ตำบล คือ ตำบลยะรม กับ ตำบลตาเนาะแมเราะ พื้นที่รวม 920 ไร่ โดยรัฐบาลเริ่มจัดสรรงบประมาณในการจัดซื้อที่ดินทั้งหมด ตั้งแต่ปี 2552-2554 วงเงิน 298 ล้านบาท จากนั้นปี 2558 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้กรมท่าอากาศยาน ดำเนินโครงการในกรอบวงเงิน 1,900 ล้านบาท และเริ่มก่อสร้างช่วงต้นปี 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562 รวมระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปี

การก่อสร้างสนามบินเบตงแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนของทางวิ่ง ทางขับ ถนนโดยรอบโครงการ ระบบไฟฟ้า และอื่นๆ วงเงิน 1,316 ล้านบาท กำหนดแล้วเสร็จ 15 กรกฎาคมปีนี้ อีกส่วนจะเป็นอาคารที่พักผู้โดยสารและอาคารประกอบ วงเงิน 338 ล้านบาท กำหนดแล้วเสร็จ 28 กุมภาพันธ์ปีนี้เช่นกัน

หากนับเวลาก่อสร้างตามแผนที่กำหนดไว้ ก็เหลือเวลาอีกไม่นาน แต่ภาพรวมการก่อสร้างยังอยู่ที่ 67% ซึ่งถือว่าล่าช้ากว่าแผน โดยทางวิ่งล่าช้า 1% ส่วนอาคารผู้โดยสาร ล่าช้ากว่า 20% แต่ก็ยังอยู่ในระยะเวลาสิ้นสุดโครงการตามที่วางแผนเอาไว้ โดยตลอดระยะการก่อสร้าง จะมีเจ้าหน้าที่จากกรมท่าอากาศยาน มาตรวจสอบการส่งมอบงานทุกเดือน

สาเหตุเกิดจากการส่งมอบพื้นที่ให้ทางโครงการช้า ปัญหานอกตัวอาคารที่ล่าช้า เกิดจากในช่วงที่ผ่านมาเจอฝน เดิมก่อนหน้านี้เราเร็วกว่าแผนอยู่ แต่ช่วงนี้เจอฝนติดลบไป 1% แต่คาดว่าถ้าฝนแล้งน่าจะกลับมา ปัญหาอื่น..เบื้องต้นก็คือการเวนคืนพื้นที่ 5 แปลง ยังติดเวนคืนอยู่ ปัจจุบันสถานะเราทำสัญญาซื้อขายกับเจ้าของพื้นที่แล้ว อยู่ระหว่างนำเงินไปจ่าย แล้วเราก็จะเข้าพื้นที่ได้ เรายังคิดว่ายังอยู่ในแผนของเราอยู่

สำหรับทางวิ่ง หรือ รันเวย์ สนามบินเบตง เดิมกำหนดให้มีความยาว 1,800 เมตร ไม่สามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ได้ แต่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2560 อนุมัติให้ขยายทางวิ่งเพิ่มอีก 300 เมตร รวมเป็น 2,100 เมตร เพื่อให้รองรับเครื่องบินพาณิชย์ทั้ง แอร์บัส เอ-319 , เอ-320 และโบอิ้ง 737

ส่วนประเด็นการขึ้น-ลงของเครื่องบินที่เคยมีข่าวก่อนหน้านี้ว่าอาจล้นเข้าเขตมาเลเซียนั้น ปัจจุบันปัญหานี้จบไปแล้ว เพราะสามารถขีดวงการบินให้เล็กลงได้ ไม่ต้องบินเข้าเขตมาเลย์

หลังจากนี้ก็ต้องรอลุ้นกันว่า คนไทยจะได้เห็นโฉมหน้าสนามบินแห่งใหม่ในจังหวัดชายแดนใต้ และพร้อมเปิดให้บริการทันในต้นปี 2563 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือไม่ เพราะทุกฝ่ายคาดหวังว่าสนามบินเบตงจะนำมาซึ่งการพัฒนา และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้สถานการณ์ในดินแดนปลายด้ามขวานกลับมาสันติสุขดังเดิม