นอกจากนี้ ยังมีเกษตรกรอีกจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาภัยธรรมชาติปัญหาค่าครองชีพ เพิ่มสูง ทำให้รายได้ที่มาจากการทำการเกษตรไม่เพียงพอต่อรายจ่ายปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ เป็นต้นซึ่งเกษตรกรเหล่านี้ต้องการให้รัฐบาลเข้าไปช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาหนี้สินเช่นเดียวกันซึ่งนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาได้สั่งการให้ทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาให้ความช่วยเหลือให้ครอบคลุมเกษตรกรทุกกลุ่มไม่จำกัดเฉพาะผู้ที่เป็นสมาชิก กฟก. เท่านั้นโดยช่วยเหลือให้เหมาะสมหรือตรงกับสภาพปัญหาที่แท้จริงของเกษตรกรเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
นายศรายุทธกล่าวต่อไปว่า ในการดำเนินงานตามนโยบายดังกล่าว ธ.ก.ส. จะทำการสอบทานหนี้ของเกษตรกรทุกรายกรณีพบว่าเกษตรกรมีหนี้ที่เป็นภาระหนัก ธ.ก.ส. จะให้ความช่วยเหลือในรูปแบบต่าง ๆเช่น กรณีเกษตรกรไม่มีศักยภาพในการประกอบอาชีพ เนื่องจากชราภาพ พิการหรือเสียชีวิตธ.ก.ส. จะพิจารณาจำหน่ายหนี้ออกจากบัญชี เป็นราย ๆ ไป รวมทั้งกรณีเกษตรกรมีหนี้ที่เป็นภาระหนักซึ่งไม่สอดคล้องกับรายได้ธ.ก.ส.จะดำเนินการพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับศักยภาพและรายได้ของเกษตรกรแต่ละรายโดยมีการขยายเวลาชำระหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 20 ปี อีกด้วย ทั้งนี้เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรทั้งประเทศดำเนินการอย่างเป็นระบบ มีความรอบคอบคำนึงถึงหลักความเป็นธรรมและไม่กระทบต่อเศรษฐกิจและการเงินของประเทศในระยะยาว