พ.ต.อ. ณรัชต์ฯ กล่าวอีกว่า กรมราชทัณฑ์พร้อมเดินหน้าเร่งนโยบายมาตรการห้ามขายผลิตภัณฑ์ยาสูบในเรือนจำทุกแห่งทั่วประเทศ โดยเริ่มรณรงค์ให้เรือนจำเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่และเลิกจำหน่ายบุหรี่ในเรือนจำ ให้เป็นไปตามกฎหมายที่ห้ามสูบบุหรี่ภายในสถานที่ราชการ ซึ่งเรือนจำก็ถือเป็นสถานที่ราชการ จึงจัดอยู่ในเขตห้ามสูบบุหรี่ อีกทั้ง ผู้ต้องขังเมื่อนำตัวเข้าควบคุมภายในเรือนจำ เป็นโอกาสที่จะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสในการเลิกบุหรี่ บริหารเวลาว่าง ทำกิจกรรมอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ เช่น การฝึกระเบียบวินัย การฝึกวิชาชีพต่างๆ และกิจกรรมทางศาสนาเพื่อขัดเกลาจิตใจ เนื่องจากบุหรี่ ยาเส้น เป็นสินค้าที่เสพติด ทำลายสุขภาพทั้งตัวผู้สูบและผู้ที่อยู่รอบข้าง ส่งผลให้ผู้ต้องขังเจ็บป่วยและเสียชีวิตได้
ทั้งนี้เรือนจำทั่วประเทศมีอัตราการสูบบุหรี่สูงกว่ากลุ่มประชากรทั่วไป รวมถึงการสัมผัสควันบุหรี่มือสองก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพทั้งต่อผู้ต้องขังที่ไม่ได้สูบบุหรี่และเจ้าหน้าที่ในเรือนจำ ตลอดจนการควบคุมการสูบบุหรี่ในเรือนจำเป็นมาตรการสำคัญที่จะช่วยในการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคของผู้ต้องขัง และเจ้าหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งกรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการควบคุมการสูบบุหรี่ในเรือนจำมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 โดยการจัดเขตปลอดบุหรี่ในเรือนจำ/จัดเขตสูบบุหรี่นอกอาคาร ล่าสุดเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับกฎหมายห้ามจำหน่ายบุหรี่และยาเส้นในเรือนจำ