(คลิปข่าว) "ไทยแลนด์ 4.0" ดวล "ประเทศกูมี"

เพลงแร็ป "Thailand 4.0" นำเสนอผ่านช่องทางยูทูบ ตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืน วันที่ 4 พ.ย. ทีผ่านมา โดยเนื้อหา THAILAND 4.0 ได้เน้นเนื้อหา นวัตกรรม ทำให้ไทยสู้ได้ คนไทยยุค 4.0 รวมพลังร่วมกำหนดอนาคตประเทศไทย มั่นใจฝีมือ และสมองคนไทยสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในทุกสาขาอาชีพ มั่นใจไทยสู้ได้ ปรากฏว่ามีจำนวนคนเข้าดูจำนวนมากล่าสุด ทะลุ 1,305,311 วิวแล้ว
ขณะที่ ในโลกออนไลน์ มีการนำเพลงแร็ป Thailand 4.0 กับ เพลงแร็ปประเทศกูมี ขึ้นมาประกบคู่กัน โดยมีหลายความเห็นอยากจะให้มี การประชันเพลงกันเกิดขึ้นด้วย
รัฐมนตรีวิทยาศาสตร์ สุวิทย์ เมษินทรีย์ และว่าที่รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊กพร้อมคลิปวิดีโอ เพลง แร็ป "Thailand 4.0" ระบุว่า "ได้ดูเพลงแร็ป Thailand 4.0 แล้วก็รู้สึกฮึกเหิม มีความหวังเห็นประเทศเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น อยากให้พวกเราทุกคนมาร่วมแรงร่วมใจ เหมือนในเพลง ร่วมกันทำสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นในประเทศ พร้อมติด #Thailand 4.0 #นวัตกรรมทำให้ไทยสู้ได้ #คนไทยสู้ได้
คุณสุวิทย์ ยืนยัน ว่า ไม่ได้ทำเพื่อมาชนเพลงแร็ป "ประเทศกูมี" แต่เป็นความตั้งใจจะทำมานานแล้ว หลังได้ดูรายการโทรทัศน์ "The Rapper เดอะแร็ปเปอร์" จึงมีแนวคิดนำมาใช้ ให้คนไทยเข้าใจไทยแลนด์ 4.0 ง่ายขึ้น เพราะเป็นเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ผลักดันมาตลอด เพราะเห็นว่า นวัตกรรมสามารถทำให้ประเทศไทยสู้ได้ ทำให้ทุกคนกล้าคิด กล้าลอง กล้าทำ เพื่อไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 จึงทำเพลงแร็ปนี้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจว่า ทุกคนมีสิทธิไปสู่จุดนั้นได้
ก่อนหน้านี้เคยเปิดเพลงแร็ป "Thailand4.0" ให้ พล.อ.ประยุทธ์ฟังครั้งแรก ในงาน "สตาร์ตอัพร่วมกำหนดอนาคตประเทศไทย" เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกฯชมว่า ส่วนใหญ่ดีแล้ว ให้ปรับแก้ไขทำนองอีกเล็กน้อย ก่อนปรับปรุงเสร็จแล้ว และส่งให้นายกฯฟังอีกครั้ง พร้อมโพสต์มิวสิกวิดีโอแร็ป "Thailand4.0" ฉบับสมบูรณ์เผยแพร่ในยูทูบ
และในวันนี้ จะเปิดอีกครั้ง ในงานที่นายกรัฐมนตรีพบนักวิจัยด้าน Bio-Circular-Green (BCG) Economy เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นักวิจัย 500 คนร่วมงาน
ขณะที่ MV ประเทศกูมี เผยแพร่ เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดมียอดคนดูมากกว่า 28 ล้านวิว (อัพเดท ตัวเลข สดอีกครั้ง ) แม้ว่าจะมีการจำกัดอายุคนดู 18 ปี ขึ้นไป และปิดไม่ให้มีการแสดงความเห็น โดยทีมงาน ระบุว่า ได้คุยกับทีมกฎหมายจาก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ทราบถึงข้อควรกังวลบางอย่าง ก็คือประเด็น Comments ใน YouTube ที่ตอนนี้สูงถึง เจ็ดหมื่นกว่า Comments ไปแล้วในจำนวนนั้น มีหลายๆความเห็นได้ละเมิดและขัดกับหลักกฎหมายตั้งแต่เล็กน้อย ไปจนถึงร้ายแรง ซึ่งเราเองตามดูแลได้ไม่หมด จึงได้รับคำแนะนำจากทีมกฎหมายว่า ให้ปิดส่วนของช่องแสดงความเห็นออกไปก่อน เพราะไม่เช่นนั้น จะเป็นจุดที่เราสามารถถูกใช้โจมตีได้ และไม่เป็นผลดีกับเป้าหมายของกลุ่ม หวังว่าทุกท่านจะทราบเหตุผลและเข้าใจ ขอบพระคุณทุกท่านอย่างสูงอีกครั้ง