เปิดกรุทรัพย์ 70 ล้าน วัดดอกไม้ ยานนาวา หลังเจ้าอาวาสถูกร้องยักยอก

ความคืบหน้ากรณี พระครูสมุห์ศักดิ์ โชติปญโญ เจ้าอาวาส "วัดดอกไม้ ยานนาวา" แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ ออกมาร้องขอความเป็นะรรม หลังถูกล็อคกุญแจ ห้ามเข้ากุฎิภายในวัด พร้อมการกดดัน ทำให้ต้องอาศัยจำวัดที่กุฏิท้ายภายในวัด อย่างยากลำบาก เพราะถูกหล่าวหาว่ายักยอกเงินวัด 30ล้าน ของทางวัด นำไปใส่ในบัญชีของตัวเอง โดยวันพรุ่งนี้ ( 26)จะมีการเปิดกุฎิเจ้าอาวาส ตรวจสอบทรัพย์สินของทางวัดที่มีอยู่ราว 70 ล้านพระครูสมุห์ศักดิ์ ชี้แจง ปัญหาที่เกิดขึ้น ว่าเกิดจากความขัดแย้งผลประโยชน์ภายในวัดที่มีทั้งฆราวาส และ พระ ซึ่งต้องการจะดันพระรูปอื่น ขึ้นมาเป็นเจ้าอาวาส จึงกล่าวหาว่ายักยอกเงิน30ล้าน ซึ่งในไม่ความเป็นจริง เพราะตนไม่สามารถ เบิกเงินในบัญชีต่างๆ ของทางวัดได้ ที่ผ่านมามีแต่เงินเข้าบัญชีไม่มีเงินออกพระครูสมุห์ศักดิ์ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ต้องการพิสูจน์ความโปร่งใส จึงได้เซ็นรับคำสั่งหนังสือ แต่เหตุการณ์เลวร้ายลง เพราะเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา กลุ่มคน และเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคล้องโซ่ล็อกกุฎิเจ้าอาวาสไม่ให้ เข้าจำวัดพักอาศัยได้ นำบัญชีวัดทั้งหมดจำนวน 15 บัญชีเก่า ที่มีอยู่แล้วไป โดยมีการกล่าวอ้างถึงหนังสือว่าพระผู้ใหญ่ด้านกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ และ เป็นกลุ่มคนที่เคยอุดหนุนทางวัด เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่การกลั่นแกล้ง 2 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เจ้าอาวาสดำรงตำแหน่ง เงินรายได้จากค่าเช้าตลาด ค่าจอดรถ ค่าฌาปนสถาน กว่า 2 ล้านบาท ไปอยู่ที่ไหน ที่ผ่านมาวัดได้รับผลกระทบจนไม่ค่อยมีญาติโยม อยากจะเข้ามาทำบุญ เนื่องจากขาดความเลื่อมใสศรัทธา

พระครูสถิต บุญวัฒน์ชาญ เจ้าคณะยานนาวาเขต2 เจ้าอาวาสวัดด่าน รักษาการณ์เจ้าอาวาสวัดดอกไม้ ซึ่งเป็นประธานในการตรวจสอบทรัพย์สิน รวมกับพระลูกวัดดอกไม้ และ ฆราวาสที่เป็นที่ยอมรับ เช่น เจ้าของตลาดเยาวราช2 และ ผู้กำกับ สน.ยานนาวา เปิดเผยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เดิมวัดดอกไม้เป็นวัดชุมชน หมายถึงวัดที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริจาค เป็นผู้ร่วมสร้างวัด ที่ผ่านมาเจ้าอาวาส 2 องค์ก่อน บริหารวัด จะมีคณะกรรมการบริหารที่เป็นฆาราวาส และ ให้อำนาจในการบริหาร เก็บค่าฌาปนสถาน เมรเผาศพ เก็บรายได้ให้ทางวัด แต่พอหลังจากมรณะภาพ ได้มีมติแต่งตั้งเจ้าอาวาสองค์ใหม่ ซึ่งเป็นการลงคะแนนทางลับ ผลออกมา คือ พระครูสมุห์ศักดิ์ ได้รับเลือกเป็นเจ้าอาวาส หลังจากนั้น พระครูสมุศักดิ์ ปลดกรรมการวัดที่เป็นฆราวาส และแต่ตั้งประธานที่ปรึกษาของทางวัด เป็น บก.หนังสือพิมพ์ มาร่วมดูแลวัด ทำให้ชาวบ้านไม่ยอมรับ แต่หลังจากที่เกิดความขัดแย้ง บก.หนังสือพิมพ์ จึงได้ไปร้อง ปปช .ตรวจสอบการยักยอกทรัพย์ หลังจากนั้น ปปช.จึงส่งเรื่องไปสำนักงานพระพุทธศาสนา จนเรื่องมาถึงเจ้าคณะให้ดำนินการสอบสวน และ เมื่อมีการให้เจ้าอาวาส เข้าชี้แจง ส่งรายงานทรัพย์สินของทางวัด แต่กลับหายตัวไปนานกว่า 30 วัน จึงเป็นที่มาของการตรอสอบพระจริยา ละทิ้งหน้าที่ ขาดวินัยสงฆ์ จนถึงขั้นพักตำแหน่งเจ้าอาวาส และ เตรียมตรวจสอบทรัพย์สินของทางวัด หลังจากนั้นวันที่ 14 ตุลาคม 14

ทางคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินจะสำรวจทรัพย์สินแต่เจ้าคณะไม่ยอม เพราะรอทนาย จึงทำคำสั่งให้ออกไปจากกุฎิเจ้าอาวาส วันที่ 19 ตุลาคม จึงไปอีกครั้ง แล ะมีพระที่เป็นพระติดตามอีก2 องค์ ซึ่งมาจากที่อื่น คอยดูแล

สาเหตุที่ต้องคล้องโซ่ล็อคกุญแจ เพื่อต้องการตรวจสอบทรัพย์สินเดิมของทางวัดที่มีอยู่จำนวนมาก การตรวจสอบเป็นไปตามกฏหมาย ซึ่งปกติแล้วการตรวจสอบทรัพย์สินเป็นเรื่องปกติ ไม่มีพระสงฆ์ที่ไหนกลัว แต่เดิมเคยตรวจสอบทรัพย์สินของทางวัดไปแล้ว 2 ครั้ง หลังการมรณภาพของเจ้าอาวาส ทรัพย์สินเดิมของเจ้าอาวาสที่อยู่ในกุฎิมีทั้งพระพุทธรูป บัญชีธนาคาร และต้องตรวจสอบ รายละเอียดบัญชีรับจ่าย ใบเสร็จต่าง ๆ โดยรวม มีทรัพย์สินราว 70 ล้านบาท จากการยึดบัญชีมาในเบื้องต้น 15 บัญชี บางบัญชีไม่พบการเคลื่อนไหวของเงินเข้า กว่า 2 ปี

เจ้าคณะแขวงยานนาวา เขต 2 ยืนยันว่า ขณะนี้ ยังอยู่ในขั้นการพักตำแหน่ง แต่ยังไม่ขาดจาการเป็นเจ้าอาวาส และโดยการตรอวจสอบจะดำเนินการอย่างละเอียด พร้อมให้ความเป็นธรรมไม่มีการกลั่นแกล้ง เพราะเจ้าอาวาสวัดดอกไม้ ก็เป็นลูกศิษย์ หากสอบแล้วไม่ผิดก็สามารถกลับมาดำรงตำแหน่งได้ ขณะนี้เพียงแค่พักตำแหน่ง ยังไม่ขาดจากการเป็นเจ้าอาวาส