ว่าเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 19 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา ระหว่างที่ตนเดินอยู่ในถนนกลางวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ ได้เจอกับอดีตสามีชาวอิหร่าน ชึ่งเคยคบหากันมาประมาน 1 ปี และเลิกลากันไปประมาน 2 อาทิตย์
โดยอดีตสามีเข้ามาจับตัวบังคับนั่งรถจักรยานยนต์แล้วพยายามจะพาตัวไปที่อื่น ระหว่างนั้นตนร้องขอความช่วยเหลือ จนมีนักท่องเที่ยวคนอื่นๆเห็นเหตุการณ์ พยายามเข้าไปช่วย แต่ถูกลูกน้องของอดีตสามี 2 คน เข้าไปห้ามไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะบอกว่าเป็นเรื่องของสามีภรรยา และยังถูกลูกน้องของอดีตสามีทำร้ายร่างกายจึงไม่กล้าช่วยเหลือ ทำได้ยืนมองอยู่ห่างๆ
หลังจากนั้น ก็ได้พาตัวมากักขังไว้ที่คอนโดฯย่านจอมเทียน ทั้งยังจับใส่กุญแจมือ เทปปิดปากและ ถือมีด ถือกระบอง และพูดจาข่มขู่จะทำร้ายตลอดเวลา จากนั้นได้จับตนโกนหัว ก่อนลงมือบังคับข่มขืน ตนพยายามขัดขืนแต่สู้แรงไม่ไหวจึงต้องจำใจยอม จนผู้ก่อเหตุสำเร็จความใคร่ถึงสองครั้ง หลังเสร็จกิจคนร้ายใจเย็นลง และพูดจาเขิงข่มขู่ให้ตนกลับมาคืนดี และอยู่ด้วยกันที่คอนโดฯ พร้อมให้ตนเซ็นต์สัญญากู้ยืมเงินจำนวน 30,000 บาท เนื่องจากกลัวตนหลบหนี ตนจึงออกอุบายทำทียินยอมตามคนร้าย และพูดขอไปเก็บเสื้อผ้าที่ห้อง แล้วจะกลับมา อดีตสามีหลงเชื่อจึงยอมปล่อยตัวออกมา
ต่อมาหลังจากที่ออกมาได้จึงนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปปรึกษาเพื่อนๆ ก่อนเดินทางเข้าแจ้งความ เพราะเกรงว่าจะถูกตามจับตัวไปอีก เนื่องจากอดีตสามีต่างชาติทำธุรกิจห้องพัก คอนโดมิเนียม รถเช่า ในเมืองพัทยา มีลูกน้องมากมาย ตนรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยอย่างมาก
เบื้องต้น ร.ต.อ.นิวัตน์ เพ็งแคน รองสว.สอบสวน เจ้าของคดี ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนส่งผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ลงพื้นที่ติดตามตัวผู้ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน