ประกอบด้วย 1.น.ส.วิลาวัลย์ โซ่ลาย อายุ 50 ปี ชาว จ.ชัยนาท , 2.นายณรงค์วิทย์ ปินตา อายุ 43 ปี ชาว จ.สระบุรี และ 3.น.ส.ภัทรา บุญสืบ อายุ 59 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ ตามหมายจับในคดีฉ้อโกง โดยสามารถจับกุมตัวทั้ง 3 คน ได้ที่บริเวณหน้าห้องแถวให้เช่าเลขที่ 24/19 หมู่ 11 ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี
พ.ต.อ.อรุณ กล่าวว่า สำหรับการจับกุมตัวในครั้งนี้ สืบเนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 3 รายมีพฤติการณ์ในการตั้งแก๊งต้มตุ๋นหลอกลวงซื้อขายที่ดิน โดยมีการแบ่งหน้าที่ทำกันเป็นขบวนการ โดย น.ส.ภัทรา จะทำหน้าที่เข้าไปติดต่อทำทีตีสนิทกับผู้เสียหาย ก่อนจะอ้างตัวเป็นนายหน้าหาซื้อที่ดิน เมื่อเหยื่อเริ่มหลงเชื่อ น.ส.วิลาวัลย์ ก็จะเข้ามาสมทบในการหลอกลวงอีกราย โดยจะทำทีแสดงตนเป็นเจ้าของที่ดิน และยอมตกลงขายที่ดินให้ แต่มีข้อแม้ว่าที่ดินดังกล่าวนั้น ติดจำนองอยู่กับบุคคลอื่น ซึ่งจะต้องทำการไถ่ถอนก่อนที่จะมาขายได้ จึงหลอกลวงผู้เสียหายให้นำเงินมาร่วมลงทุน เป็นค่าไถ่ถอนที่ดินออกมาก่อน เพื่อนำไปขายให้กับ นายณรงค์วิทย์ ที่แสดงตนเป็นเสี่ยโดยเสนอผลต่างค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวนมากทั้งนี้ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงยอมนำเงินมาร่วมลงทุนด้วย เมื่อได้รับเงินจากผู้เสียหายแล้ว ผู้ต้องหากลุ่มนี้ก็จะรอจังหวะสบโอกาส แล้วเชิดเงินหลบหนีไป โดยที่ผ่านมาผู้ต้องหากลุ่มนี้ เคยก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายตามพื้นที่จังหวัดต่างๆมาแล้วหลายครั้ง จนมีหมายจับติดตัวในคดีฉ้อโกงรวมกัน 7 หมายจับ ซึ่งครั้งล่าสุดที่ผู้ต้องหากลุ่มนี้ร่วมกันก่อเหตุหลอกลวงในลักษณะเดียวกัน เกิดขึ้นเมื่อกลางปี 2560 ในพื้นที่ จ.อ่างทอง โดยได้เงินจากผู้เสียหายไปกว่า 7 แสนบาท ก่อนจะหลบหนีมากบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.ลพบุรี กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพ เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.หนองโสน จ.พิจิตร รับตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป