พบประวัติ "น้องมาร์ค" ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กอ่อนของเทศบาล เข้าข่ายได้สัญชาติไทย

ร.ท.กิตติชัย เจริญยิ่ง ปลัดเทศบาลตำบลเวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย กล่าวว่า กรณี ด.ช.มงคล บุญเปี่ยม ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ทีมทีนทอล์ค หมูป่าอะคาเดมี เชียงรายที่ยังไม่มีสัญชาติไทย และตามรายงานระบุว่าเกิดในเขตเทศบาลตำบลเวียงพางคำ ล่าสุดได้มีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานพบว่าแม้ไม่มีหลักฐานการเกิด แต่มีประวัติว่าเคยอยู่ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กอ่อนของเทศบาล 


ขณะที่พ่อและแม่ของ ด.ช.มงคล ถือบัตรเลข 0 และเชื่อได้ว่าให้กำเนิดบุตรในแผ่นดินไทย จึงเข้าข่ายที่จะได้รับสัญชาติไทยตามหลักดินแดน หลังจากนี้จึงได้แจ้งไปทางผู้ปกครองของ ด.ช.มงคล ว่าให้กลับมาดำเนินการสอบปากคำสอบพยาน หรือส่งหลักฐานทั้งพยานบุคคลหรือเอกสาร ถ้ามี เพิ่มเติม อีกครั้ง

ร.ท.กิตติชัย บอกว่า เนื่องจากเทศบาลตำบลเวียงพางคำ อยู่ในเขตติดชายแดนทำให้มีคำร้องขอสัญชาติเข้ามาจำนวนมากซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่ให้กำเนิดบุตรในไทย โดยนโยบายที่ได้รับจากส่วนกลางคือครูทางโรงเรียนจะเป็นต้นทางรวบรวมหลักฐานทางสัญชาติให้กับเด็กๆ ในสถานศึกษา แล้วส่งมาที่เทศบาล และทางเทศบาลก็จะมาตรวจสอบหลักฐานได้รับว่าครบถ้วนหรือไม่ มีการเรียกสอบปากคำ และลงพื้นที่สอบถามคนในหมู่บ้านซึ่งขั้นตอนการพิสูจน์สัญชาติส่วนนี้ต้องใช้ระยะเวลา


อย่างไรก็ตาม การพิสูจน์สัญชาติไทยของเด็กยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและเท่าเทียมไม่เฉพาะกับ ด.ช.มงคล ที่กำลังเป็นที่สนใจของสังคม เนื่องจากตนเข้าใจดีว่าการที่เด็กได้รับสัญชาติ จะทำให้มีโอกาสได้ศึกษาต่อในต่างพื้นที่ และอนาคตก็จะมีงานทำ เป็นพลเมืองที่ดีของสังคม


สำหรับพื้นที่ของเทศบาลตำบลเวียงพางคำ นั้นมี จำนวนรับคำร้องขอลงรายการสัญชาติไทย ตามมาตรา 23 ปี 2560 ทั้งหมด 11 ราย จำนวนรับคำร้องขอหนังสือรับรองการเกิด ปี 2560 ที่ได้รับการอนุมัติแล้ว ทั้งหมด 13 ราย จำนวนรับคำร้องขอลงรายการสัญชาติไทย ตาม มาตรา 23 ปี 2561 ถึงปัจจุบัน ทั้งหมด 13 คำร้อง


ด้านนายเอี่ยม บริบูรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป่าเหมือด ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ ด.ช.มงคล ศึกษาอยู่ บอกว่า โรงเรียนได้ทำหนังสือรับรองการเป็นนักเรียนของโรงเรียนไว้สำหรับผู้ปกครองเพื่อใช้เป็นหลักฐานส่วนหนึ่งของการขอสัญชาติแล้ว ซึ่ง ด.ช.มงคล เข้าเรียนที่โรงเรียนนี้มาตั้งแต่ชั้น ป.1 ขณะนี้ศึกษาอยู่ในระดับชั้น ม.1 ส่วนเด็กๆ ไร้สัญชาติคนอื่นก็ไม่ได้ละเลย มีการออกใบรับรองนักเรียนให้ด้วยเช่นเดียวกัน


นายเอี่ยม บอกอีกว่า เมื่อช่วงเช้าสำนักเขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดเชียงราย ได้เรียกผู้อำนวยการโรงเรียนที่ทีมหมูป่า 13 คนศึกษาอยู่ไปประชุม เรื่องการเยียวยาสภาพจิตใจหลังออกจากถ้ำ และการเข้าสังคมกับเพื่อนๆ เพื่อป้องกันการถูกเพื่อนซักถามในเรื่องที่อาจกระทบกระเทือนจิตใจ รวมถึงแผนการเรียนเสริมหลังจากขาดเรียนไปเป็นเวลานาน ให้ได้เรียนทันเพื่อน ซึ่งได้จัดครูสอนเสริมไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางโรงเรียนเตรียมแผนรับนักเตะทีมหมูป่ากลับมาเรียนไว้อย่างรอบคอบที่สุด